หน.ปชน.ขอสังคมอย่าให้น้ำหนักคำพูด "ทักษิณ" บอกไม่ปรับภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล เพราะอำนาจปรับ ครม.อยู่ที่นายกฯ ชี้พรรคร่วมมีรอยร้าว รัฐบาลขาดเสถียรภาพ "แพทองธาร" ต้องคุมเสียงให้ได้ ยันพรรคส้มไม่มีงูเห่า คนพูดบ่อยๆ จะเสียเครดิต
วันนี้ (27 เม.ย. 2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมบอกว่าจะมีการเปิดเผยรายชื่อ สส.ฝ่ายค้าน ที่จะย้ายเข้าพรรค ในส่วนของพรรคประชาชนมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ว่า จริงๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ตนเชื่อมั่นว่า ไม่ได้เป็นงูเห่าจากพรรคประชาชนแน่นอน แต่จะเป็นใครบ้าง ตนตอบแทน ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้ ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัสเอง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในเพื่อนภายในพรรคทุกคน เห็นได้จากในหลายๆ ครั้ง ตั้งแต่พรรคก้าวไกลมาเป็นพรรคประชาชน จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เคยมีงูเห่าใดๆ ทั้งสิ้นจากพรรคประชาชน เพราะฉะนั้น ในครั้งนี้ ก็เชื่อมั่นว่า ไม่มีจากพรรคประชาชนแน่นอน
เมื่อถามว่า จะเป็นการทำลายเสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนมองเห็นและให้ความสำคัญกับการกระทำ และที่ผ่านมา พรรคประชาชนก็ไม่เคยมีกรณีในเรื่องนี้ เมื่อยิ่งมีการพูดในเรื่องนี้ แต่พรรคประชาชนไม่เคยกระทำแบบนั้นเลย จึงคิดว่าในอีกมุมหนึ่ง คนที่ออกมาพูดบ่อยๆ จะเสียเครดิตของตัวเอง
ส่วนสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะไม่ปรับพรรคภูมิใจไทยออก ประเมินแนวโน้มหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อำนาจในการปรับ ครม.เป็นของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนเองไม่อยากให้สังคมให้น้ำหนักกับคำพูดของนายทักษิณ ซึ่งไม่ได้มีอำนาจตัวจริงในการปรับ ครม.
ขณะเดียวกัน ประเด็นในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเห็นกันอยู่ว่า มีรอยร้าว ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ และอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ดังนั้น ความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องควบคุมเสียงภายในพรรคร่วมรัฐบาล และแสดงออกให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเจรจากับต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าได้
ส่วนกระแสข่าวการแลกกระทรวงกัน ระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย กังวลว่า จะทำให้เดินหน้าต่อไม่ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ได้มีข้อกังวลใจใดๆ ในส่วนนั้น สิ่งที่พวกเรา และประชาชนอยากเห็น ถ้าจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ครม.จริงๆ ก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนเก้าอี้ด้วยความรู้ความสามารถ ดึงคนที่มีความเหมาะสมในตำแหน่งนั้นๆ มาดำรงตำแหน่ง ไม่ควรจะปรับเปลี่ยนเก้าอี้กัน เพราะเป็นการเจรจาทางการเมือง หรือเพียงต้องรักษาเสถียรภาพในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเดียวเท่านั้น เพราะวิกฤติประเทศในตอนนี้ เปรียบเหมือนระเบิดเวลาในภายหลัง
ส่วนการวิเคราะห์ว่าพรรคเพื่อไทยจะชิงเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย ให้ได้ก่อนเลือกตั้ง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ภายในรัฐบาลจะต้องพูดคุยกัน ซึ่งคนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือนายกรัฐมนตรี