‘ทักษิณ’ ชี้เจรจาลดกำแพงภาษีทรัมป์ ต้องไม่ผลีผลาม มีสติ ใจเย็น เพราะสหรัฐฯ นำเรื่องที่ไม่ใช่ภาษีมาปนด้วย ทั้งเรื่องความมั่นคง เรื่องความใกล้ชิดจีน และเรื่องการฟ้องนักวิชาการอเมริกัน ชี้นายกฯ ไม่จำเป็นต้องไปเพราะไม่ได้คุยกับประธานาธิบดี
วันนี้(26 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครปฐมโอชา จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเพื่อลดกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ว่า เรามีการพูดคุยกัน ซักซ้อมในเรื่องข้อห่วงใยของอเมริกา และของเราเองที่ไม่เคยได้ดูตัวเลขมานาน ก็กลายเป็นว่ามุ่งตัวเลข แต่ไม่ได้มุ่งคุณภาพของการนำเข้าและส่งออก ตอนนี้ก็ต้องมาปรับครั้งใหญ่ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดีที่เราได้รับเที่ยวนี้ ทำให้เราต้องมานั่งปรับว่า บางประเทศที่เราขาดดุลเยอะเกินไปก็จะสามารถแก้ไขอย่างไร ส่วนประเทศที่เราเกินดุลมากเกินไป เราจะปรับอย่างไรให้มันแฟร์ ก็น่าจะดีขึ้น
ส่วนที่สหรัฐฯ ชะลอการให้ไทยเข้าพบเจรจา นายทักษิณ กล่าวว่า สหรัฐฯ เขาต้องดีลกับหลายประเทศ และเขาก็มียุทธศาสตร์ว่าเอเชียเขาจะเอาอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาห่วงใยเรื่องความใกล้ชิดกับจีน ก็จะมีผูกพัน นอกจากเรื่องภาษีมันก็มีเรื่องที่ไม่ใช่ภาษีปนอยู่ด้วยในการเจรจา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไม่ผลีผลาม ใจเย็นๆ ดูข้อมูลให้เหมาะ
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเคยบอกว่านายทักษิณจะช่วยเจรจากับคนรอบข้างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นายทักษิณ กล่าวว่า เราก็พูดคุยกัน แต่บังเอิญว่าเดี๋ยวนี้เขาขอใช้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานเข้ามาผสม ทั้งเรื่องของความมั่นคงบ้าง เรื่องที่เรามีปัญหาการฟ้องร้องคนอเมริกันอยู่บ้าง (ดร.พอล แชมเบอร์ส นักวิชาการมหาวิทยาลัยนเรเศวรที่ถูกฟ้องข้อหาผิด ม.112) ถูกนำเอามารวมกันหมด เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีสติในการเจรจาให้ดี
เมื่อถามว่า นายทักษิณจะขออนุญาตศาลออกไปพูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็คงต้องดูเหตุการณ์ก่อน
ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วนายกรัฐมนตรีไม่มีใครไป เพราะไม่ได้เป็นการเจรจากับตัวประธานาธิบดี เป็นการเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) บ้าง หรือกระทรวงพาณิชย์เขาบ้าง ฉะนั้น เราจะใช้ระดับรัฐมนตรีไปเจรจา