"ทนายกฤษฎา" จับมือ ”กลุ่มขจัดโกงโคราช“ ร้อง กกต.ตรวจสอบผู้สมัครนายกเทศมนตรี เคยติดคุกคดีฉ้อโกง ส่อขาดคุณสมบัติ

เจ้าของฉายา "ทนายปราบโกง" จับมือ ”กลุ่มขจัดโกงโคราช“ ร้อง กกต.สอบคุณผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครรราชสีมา พบเคยติดคุกคดีฉ้อโกง ทำขาดคุณสมบัติลงสมัคร

วันนี้( 25 เม.ย.) นายกฤษฎา อินทามระ หรือ "ทนายปราบโกง" ซึ่งรับมอบอำนาจจากผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา พร้อม นายสุนทร แพงไพรี ตัวแทนกลุ่ม "ขจัดโกงโคราช" เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.อีกครั้ง ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองรายหนึ่ง ซึ่งเคยต้องคำพิพากษาในคดีอาญาของศาลอาญามีนบุรี ข้อหาฉ้อโกง

นายกฤษฎา กล่าวว่า ผู้สมัครรายดังกล่าวเคยถูกจำคุกเป็นเวลา 7 วัน ตามหมายศาลอาญามีนบุรี ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยรวม 3 คน ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 25 ล้านบาท โดยศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งก็คือผู้สมัครรายดังกล่าว และจำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 (เดิม)ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

"ผู้สมัครรายนี้ถูกคุมขังตามหมายศาลเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 -16พ.ค. 2566 ก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว การที่บุคคลดังกล่าวเคยถูกคุมขังตามหมายศาล จึงถือว่ามีลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 50ที่ระบุว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง(6)ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล วันนี้จึงต้องมาร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรายดังกล่าวว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าขาดคุณสมบัติจริง ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป"

ด้านนายสุนทร กล่าวตนเห็นการทำงานของทนายปราบโกงที่ทุ่มเททำงานปราบคอรัปชั่นหลายแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดนครราชสีมาอย่างเข้มข้น จึงผนึกกำลังกันช่วยตรวจสอบบรรดาผู้สมัครนายกเล็กในครั้งนี้ เพื่อความถูกต้องสุจริตยุติธรรมแก่พี่น้องชาวโคราชเพื่อให้ได้คนดีมาดูแลทุกข์สุขประชาต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต. ได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบและเสนอกกต.พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่9เม.ย.นายกฤษฎาได้มายื่นร้องให้กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรายหนึ่งในจ.นครราชสีมาไปแล้วเนื่องจากเห็นว่าถูกฟ้องคดีต่อศาลในความผิดมาตรา 157 เกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ระหว่างที่บุคคลดังกล่าวดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมื่อปี 66 และในวันที่ 20พ.ค.นี้ศาลอุทธรณ์ แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นัดฟังคำสั่งศาลในคดีอาญาที่ผู้สมัครรายนี้ตกเป็นจำเลย จึงอาจทำให้ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง