ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขีดเส้น 30 วัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 ยันไม่หนักใจ เชื่อทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ มั่นใจใช้เวลาไม่นานหากข้อมูลครบ
วันนี้ (24 เม.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวกรณี กสม.ส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณายื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนคำสั่งอนุญาต นายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ห้องวีไอพีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ให้เป็นการกระทำที่ใช้บังคับไม่ได้ หรือ โมฆะ ว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้รับคำร้องจาก กสม.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง มาประกอบกับข้อกฎหมายในเรื่องของหลักเกณฑ์การส่งเรื่องไปให้ศาลปกครองพิจารณา โดยกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ 30 วัน หากส่งมาถึงและข้อมูลครบถ้วนผู้ตรวจการแผ่นดินก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณาส่งต่อไปยังศาลปกครอง แต่หากมีความจำเป็น ก็ต้องประชุมหารือก่อน ยืนยัน จะดำเนินการโดยเร็ว และเบื้องต้นยังไม่จำเป็นต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมด้วย แต่หากมีการประมวลผลแล้ว ก็อาจต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โอกาสอธิบายเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า ผลของคำร้องดังกล่าว ต้องการให้คำสั่งส่งตัวนายทักษิณ ไปโรงพยาบาลตำรวจเป็นโมฆะใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องไปดูในรายละเอียด วว่าเป็นประเด็นไหนอย่างไร และข้อกฎหมายว่าอย่างไร ซึ่งขณะนี้ ทาง กสม.ยังไม่ได้มีการส่งหลักฐานอะไรมาเพิ่มเติม แต่เรามีความจำเป็นต้องขอเพิ่ม เพราะต้องการข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ในรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย เบื้องต้นก็จะมีกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกรณีชั้น 14 ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยดำเนินการก่อนหน้านี้ หากมีประเด็นไหนที่เกี่ยวข้อง ก็จะนำมาพิจารณาร่วมด้วย
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะหน่วยงานที่เดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะที่รับรู้ร่วมกัน อยู่ในความสนใจของสังคม คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่า หากไม่ได้รับความร่วมมือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีอำนาจสั่งการมากน้อยแค่ไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราคงไปไม่ถึงขั้นนั้น โดยรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ว่าหน่วยงานมีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะได้รับความร่วมมือดี
เมื่อถามว่า มีความกดดันหรือไม่ เพราะทุกคนต้องการจะรู้ว่า การใช้ดุลพินิจของกรมราชทัณฑ์เหมาะสมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องที่ส่งมาถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็จะอยู่ที่ประเด็นที่ร้องเรียนและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น เมื่อยึดหลักดังกล่าว จะทำให้เราไม่มีความกดดัน จะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ดีมีความเห็นร่วมกัน
เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องเชิญกรมราชทัณฑ์ มาชี้แจงกรณีขอให้ยกเลิกระเบียบส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อมูลและการพิจารณาถ้าข้อมูลเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องเชิญ แต่หากมีประเด็นไหน ที่ยังไม่ชัดเจนก็ต้องเชิญมา