25 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผย แก้ทุกข์ร้อน ปชช.แล้ว 61,062 เรื่อง ยันเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุก ยกระดับองค์กรเป็นที่พึ่งประชาชน
วันนี้ (24 เม.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย ผู้บริหารสำนักงานฯ ร่วมพิธีเปิดงานสัมมนาวิชาการ เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี สถาปนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวถึงทิศทางขององค์กรว่าผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรหลักในการทำงานเชิงรุกที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นองค์กรโปร่งใส เปิดเผยตรวจสอบได้ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จากประสบการณ์ 25 ปี ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้จากการทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐในการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนนำมาสู่การกำหนดทิศทางต่อไปในการยกระดับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ใน 5 ด้านหลัก คือ
1. การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม-เน้นความรวดเร็วในการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม มุ่งการแก้ไขปัญหาเชิงรุก หรือความไม่เป็นธรรม ที่เป็นปัญหาสาธารณะ หรือความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนส่วนรวม การแก้ปัญหาเชิงระบบ
2. การพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และการพัฒนาบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ บริหารจัดการข้อมูลการนำเทคโนโลยีดิจิตอลสมัยใหม่มาใช้ในการปฏิบัติงาน พัฒนาประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องเรียน การแสวงหาข้อเท็จจริง การจัดทำคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะ การติดตามผลปฏิบัติการตามคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะ และการพัฒนาการปฏิบัติการบริหารงานและการปฏิบัติงานไปสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล
3. การสร้างเครือข่ายองค์กรธรรมาภิบาลและสังคมธรรมาภิบาล เพื่อลดการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน
4. การเรียนรู้และการปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในกระแสโลกาภิวัตน์ และกระแสสิทธิมนุษยชน
5. ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติงาน ในการร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชน
ทั้งนี้ ตลอด 25 ปี ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ พ.ศ. 2543-2567 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม จำนวน 63,664 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 61,062 เรื่อง คิดเป็น 95.91% อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2,602 เรื่อง คิดเป็น 4.09%
“วันนี้ถึงช่วงที่ต้องให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาล ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งทุกวันนี้มีแต่เพิ่มมากขึ้น ถ้าเราสามารถสร้างสังคมธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้น ก็จะช่วยลดความขัดแย้ง กระตุ้นสำนึกรับผิดชอบของผู้มีหน้าที่ ให้บริการสาธารณะให้บริการประชาชนก็เท่ากับว่าจะช่วยลดเรื่องร้องเรียน ที่จะทำให้เราเสียเวลาไปโดยใช่เหตุในการขับเคลื่อนสังคมธรรมาภิบาล ซึ่งปัจจุบันเรามีตำบลนำร่องที่พัฒนาไปสู่ตำบลคุณธรรม ที่ ต.พญาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ผลมาก เห็นความเปลี่ยนแปลง คนมีจิตสาธารณะ”
ส่วนก้าวต่อไปผู้ตรวจการแผ่นดินยังคงเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม โดยยึดหลักนิติธรรม หลักธรรมาภิบาล รวมถึงหลักสิทธิมนุษยชน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการทำงาน ยึดหลักกัลยาณมิตร หลักสิทธิเสรีภาพของบุคคลอีกทั้งการทำหน้าที่ต้องมีความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากอคติในการใช้ดุลพินิจในการนำพาองค์กรและสำนักงาน เพื่อเป็นองค์กรหลักที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่เป็นธรรม