สว.สำรองบุก กกต.ขอคุยผู้บริหาร ทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเลือก สว.ระดับประเทศ เหน็บ กกต.ไม่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ เน้นโปรโมตโปรตัวเอง ส่วนเรื่องที่ถามเงียบกริบ
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่มผู้ม่ีรายชื่อเป็น สว.สำรองนำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอเข้าพบผู้บริหาร กกต. และพูดคุยทวงถามความคืบหน้าในประเด็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือก สว.ปี 2567 โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า จากจดหมายเปิดผนึกทั้ง 10 ฉบับที่เราได้เสนอมา สาระสำคัญหลักๆ คือ เรามองว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหา เพราะทุกอย่างเกิดความล่าช้า ก่อนหน้านั้น เราเคยได้นำประเด็นของ พ.ต.อ.มนัส นครศรี ได้มีการร้องกล่าวโทษนายแสวง ที่หลีกเลี่ยงการทำหน้าที่ต้องรับผิดชอบที่ไม่ห้ามการนำสมุดสว.3 ที่มีการจดโพยจะตั้งเข้าไปในการเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 และ กกต.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน สุดท้ายมีคำวินิจฉัยไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกับที่พวกเราได้นำเรียนมา โดยได้มีการทักท้วงขอให้มีการแก้ไขคำวินิจฉัยต่างๆ ที่สำคัญ อยากขอทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายแสวง รอบประเมินที่ผ่านมา รวมถึงขอทราบผลการขอให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง เป็นการชั่วคราว อีกทั้งต้องการติดตามการขอให้มีการเปิดหีบลงคะแนนในการเลือก สว.ระดับประเทศ
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด คือ อยากให้ กกต.ปรับปรุงในเรื่องของการสื่อสารระหว่างภาคประชาชนกับ กกต. ซึ่งจดหมายทั้ง 10 ฉบับ เราไม่ได้รับคำตอบใดๆ ดังนั้น เมื่อวันศุกร์ที 18 เม.ย เราจึงมีหนังสือเพื่อขอพบเจ้าหน้าที่และหารือในประเด็นต่างๆ โดยต้องการทราบคำตอบหรือมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร โดยวันนี้ทางกลุ่มจะได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวน ในเรื่องคำร้องเรียนต่างๆ ส่วนข้อประเด็นที่เราหารือตามหนังสือเปิดผนึกทราบว่าผู้บริหารกกต.กำลังจะมอบหมายให้ผู้อำนวยการฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือกับทางกลุ่มอีกครั้ง
นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนชริตกุล หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม สว.สำรอง กล่าวว่า ผ่านมาแล้ว 10 เดือน นับตั้งแต่การเลือก สว.ระดับประเทศ ไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าพบพูดคุยกับผู้บริหาร กกต. เราจึงอยากให้ กกต.ส่งผู้บริหารชั้นสูงเข้ามาพูดคุยกับเรา แต่ กกต.กลับไม่มีการสื่อสารใดๆ กับเรา กกต.มีจิตสำนึกที่อยากจะพูดคุยกับเราหรือไม่ เขาน่าจะขาดฝ่ายประชาสัมพันธ์ ถ้ายังใช้งบประชาสัมพันธ์อยู่วันข้างหน้าน่าจะร้องเอาผิดได้เพราะว่าไม่เคยใช้เลยนอกจากการโปรโมตตัวเอง ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ ก็ไม่มีการตอบอะไรกับเราเลย
