ผู้ตรวจฯ รับลูก เตรียมร่อนหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง หลัง กสม.ร้องส่งศาลเพิกถอนระเบียบราชทัณฑ์-สั่งขั้นตอนส่งตัว "ทักษิณ" นอนชั้น 14 เป็นโมฆะ ขอเวลาดูเท็จจริงก่อน อาจจบที่ศาลหากเห็นว่าต้องยกเลิก
วันนี้ (21เม.ย.) พ.ต.ท. กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมีมติส่งเรื่องให้พิจารณาเสนอต่อศาลปกครองเพิกถอนการที่หน่วยงานของรัฐอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร รักษาอาการป่วยนอกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเพิกถอนกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำพ.ศ 2563 ว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และในช่วงเช้าวันนี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้นำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่ระบบแล้ว ทราบว่าเบื้องต้นได้มีการยื่น 2 ประเด็น คือขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองให้ยกเลิกกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ของกรมราชทัณฑ์ และกรณีที่กรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยขอให้ศาลมีคำสั่งว่าขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดเป็นโมฆะ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยจากนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็จะต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้กรมราชทัณฑ์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ชี้แจง ว่ามีวิธีคิดอย่างไร หากจะทำการยกเลิกจะกระทบกับส่วนรวมหรือไม่อย่างไร และมีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนจะต้องการเชิญหน่วยงานเข้าชี้แจงด้วยหรือไม่นั้นก็จะต้องทำการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น และขอรายงานจาก กสม.ที่เคยได้ศึกษาเบื้องต้นมาแล้วเพื่อมาประกอบการพิจารณา รวมถึงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศาลฎีกาด้วย เพราะศาลได้มีพิพากษามีโทษจำคุก แต่กรมราชทัณฑ์กลับส่งตัวไปรักษาโดยไม่มีการไต่สวนจากศาล ซึ่งอาจจะมีความขัดแย้งต่อคำพิพากษาของศาล โดยจะต้องขอคำชี้แจงจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหากพบว่ายังไม่มีความชัดเจนก็อาจจะต้องมีการเชิญมาประชุมร่วมกัน แต่เบื้องต้นจะดูเอกสารว่าชี้แจงครบถ้วนหรือไม่หรือจะต้องมีการสัมภาษณ์เชิงลึก
สำหรับกรอบการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินในการดำเนินการก่อนที่จะส่งเรื่องไปให้ศาลปกครอง พ.ต.ท. กีรป กล่าวว่าโดยปกติผู้ตรวจการจะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โดยภายใน 1 สัปดาห์ก็จะออกหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจง แต่สิ่งที่ควบคุมไม่ได้คือขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชี้แจงกลับมาภายใน 30 วัน หากมีข้อมูลพร้อมก็จะส่งกลับมายังผู้ตรวจการแผ่นดินภายใน 30 วัน หากข้อมูลไม่พร้อมก็สามารถขอผ่อนผัน ซึ่งตามระเบียบผู้ตรวจการแผ่นดินจะอนุญาตให้เลื่อนการชี้แจงได้ 2 ครั้งครั้งละ 15 วัน รวมเสร็จสรรพแล้วไม่น่าจะเกิน 60 วัน อย่างไรก็ตามหากมีเหตุจำเป็น ก็อาจจะขอผ่อนผันหรือเข้ามาพูดคุยชี้แจงถึงสาเหตุความล่าช้า หรือผู้ตรวจการแผ่นดินก็อาจจะเชิญผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเข้าร่วมประชุม แต่อาจจะยังไม่ถึงขั้นเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมประชุม อาจจะเป็นกรมราชทัณฑ์ รวมถึงจะต้องมีการตรวจสอบในข้อกฎหมายเรื่องของศาลว่าขั้นตอนการขอส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำ มีความจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตศาลด้วยหรือไม่
"อันนี้เป็นประเด็นใหม่ที่ผู้ร้องมีข้อเสนอแนะว่าการที่จะส่งตัวนักโทษออกไปรักษานอกเรือนจำ ควรที่จะต้องขออำนาจศาล ตรงนี้เป็นประเด็นใหม่ที่จะต้องมีการศึกษา ถ้ามีการแก้ไข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะแก้ไข ก็ไม่ต้องไปถึงศาลปกครอง แต่หากเรามองแล้วเห็นว่าควรแก้ไข แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่แก้ไข อันนี้ก็อาจจะต้องไปพึ่งอำนาจศาลปกครองให้ยกเลิกหรือแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง"
เมื่อถามว่ากรณีการขอให้กลับไปเริ่มต้นกระบวนการใหม่ ขณะที่นายทักษิณก็พ้นการรับโทษมาแล้ว ขั้นตอนการกลับเข้าไปสู่การรับโทษจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ และอยู่อำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาหรือไม่ พันตำรวจโท กีรป กล่าวว่าตรวจการแผ่นดินสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ แต่ขั้นตอนของการกลับเข้าสู่กระบวนการใหม่นั้นขั้นตอนทางกฎหมาย ต้องไปดูกฎระเบียบ กฎหมายต่างๆ ว่าเมื่อมีการยกเลิกการดำเนินการที่ผ่านมาแล้ว ผลไม่ว่าจะเป็นผลต่อนายทักษิณ กรมราชทัณฑ์ หรือ โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ จะมีผลเช่นไร ต้องขึ้นอยู่กับกฎระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.ท. กีรป กล่าวว่าหลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงมาแล้ว หากมีข้อมูลครบถ้วน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะทำการประมวลเรื่องสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เสนอผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อวินิจฉัยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะให้คำแนะนำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร ทั้ง
ประเด็นขอให้ยกเลิกการดำเนินการทั้งหมดหรือไม่ ประเด็นส่งนักโทษไปรักษาตัวนอกเรือนจำ และการยกเลิกระเบียบกรมราชทัณฑ์ฯ ทั้งนี้ในเรื่องของการดำเนินการที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะมีความเห็นและข้อเสนอแนะให้ดำเนินการให้เกิดความถูกต้องชอบธรรม รวมถึงมีความเห็นจะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องต่อศาลปกครอง
ส่วนหากจะขอให้มีการยกเลิกระเบียบฯ เกี่ยวกับการส่งตัวนักโทษไปรักษาตัวนอกเรือนจำ กรณีนี้อาจจะต้องมีการพึ่งอำนาจศาลปกครอง หากหน่วยงานไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไข แต่ผู้ตรวจแผ่นดินเห็นว่าควรแก้ไข อย่างไรก็ตามต้องดูข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งสองประเด็นก่อน