วันนี้ (20 เม.ย.) พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย สส.พรรคกล้าธรรม อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส และรองหัวหน้าพรรค, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา และนายทะเบียนพรรค, นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา ลงพื้นที่อำเภอช้างกลาง เพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ๊กโอ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 จากพรรคกล้าธรรม หมายเลข 5
โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวกับประชาชนช่วงหนึ่งว่า ตนรู้จักกับนายก้องเกียรติ หรือ น้องโอ มาสักระยะหนึ่ง ผ่านการแนะนำของ นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว หรือ กำนันศักดิ์ อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี และ สส.กฤต จึงได้รู้ว่า เด็กคนนี้เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่ใช่นักเลง แต่ใจนักเลง นี่คือ คนของพรรคกล้าธรรม ที่ผ่านมา ตนมีประสบการณ์ทางการเมืองมาทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า ตนเชื่อมั่นว่า มองคนออก ใครเหมาะที่จะมาทำหน้าที่นักการเมืองระดับชาติ เพราะคนที่จะมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่ทำเพียงแค่พูดในสภาฯเป็นอย่างเดียว จะต้องมีปาก มีเสียง ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องในพื้นที่ ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง ต้องเข้าถึงให้ความช่วยเหลือ ตอนหาเสียงไปไหว้ประชาชน หากได้รับความไว้วางใจและโอกาสก็อย่าห่างเหินชาวบ้านอย่างเด็ดขาด นี่คือลักษณะพิเศษของคนที่จะมาเป็น สส.
“ที่ผ่านมา ผมเห็นนายก้องเกียรติ ทำหน้าที่ สจ.ผมก็ต้องทำการบ้านว่า เด็กคนนี้ที่จะมาอยู่กับเรา สามารถปักธงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเขต 8 ได้หรือไม่ คนที่จะมาเป็นตัวแทนของพรรคกล้าธรรม เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งวันนี้ตนมั่นใจว่า คนๆ นี้ ได้ผ่านการกลั่นกรองมาหลายขั้นตอนแล้ว และผมกล้าการันตีว่า เด็กคนนี้จะเป็นตัวแทนให้กับพ่อแม่พี่น้องชาว อ.ฉวาง, อ.พิปูน,อ.ช้างกลาง และ อ.นาบอน ได้“ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ถึงแม้ตนจะเกิดที่จังหวัดพะเยา แต่ตอนเด็ก ๆ ตนเคยย้ายตามพ่อที่ไปรับราชการที่จังหวัดนราธิวาส และใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่ที่นั่น จนทุกวันนี้ตนก็ยังมีบ้านอยู่ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ดังนั้น เลือดของความเป็นคนใต้ ตนไม่แพ้กับคนที่เกิดในภาคใต้แน่นอน และตนรู้ดีว่าคนใต้ต้องการอะไร ซึ่งตนมีพรรคพวกเป็นคนใต้จำนวนมาก ตนชอบคบกับคนใต้ เพราะคนใต้มีความจริงใจไม่โกหก กล้าตัดสินใจไม่ต้องพูดเยอะ
“นักการเมืองคือขี้ข้าประชาชน ไม่ใช่เจ้านายประชาชน หลายคนมองว่า ผมเป็นนักเลง เป็นคนสีเทา ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่ แต่ผมใจนักเลง พูดคำไหนคำนั้น ถ้าบอกว่าช่วยก็ต้องช่วยให้ได้ คุยกันด้วยความจริงใจ พื้นที่ที่ผมยืนพูดอยู่ตรงนี้ คือ วัด เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ จะมาพูดอะไรลอยๆ โกหกชาวบ้านไม่ได้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้าย