xs
xsm
sm
md
lg

“เกรียงศักดิ์” ฟันธง รบ.ล้มแน่หากยังดันกาสิโน ชี้“พท.-ภท.”ขับเคี่ยวหนักแข่งตั้ง รบ.สมัยหน้า เตือน อย่าประมาทม็อบคนเดือดร้อน ศก.จุดติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(19 เม.ย.)ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ นักวิชาการอาวุโสมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้สัมภาษณ์ประเด็นร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีกาสิโน หรือกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เมื่อเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎร แต่ปรากฏว่านายไชยชนก ชิดชอบ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาว่า ไม่เอากาสิโน จะไปต่อกันอย่างไร ว่า ตนได้ออกมาเตือนตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันจักรี ว่าถ้ารัฐบาลไม่ถอยในเรื่องนี้ รัฐบาลจะล้มและพัง และก็ได้ตอกย้ำด้วยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนผ่านไอเอฟดีโพลอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายน ที่ผลโพลออก มาชัดเจนว่าคนไทยไม่เอากาสิโน ประกอบ คำอธิบายจากแนวคิดมวลชน 6 ภาคีใหญ่โดยเฉพาะภาคีวิชาการ เช่นกลุ่มราชบัณฑิตยสถาน กลุ่มศาสนาต่างๆ ไม่เอากาสิโน และจะเป็น การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ ถ้าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน เพราะถ้ามีการผลักดันเข้าพิจารณาวาระแรกในวันที่ 9 เมษายนรัฐบาลจะล้มแน่นอน และก็เห็นอาการพรรคภูมิใจไทย จับกระแสได้ทัน ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน นายไชยชนก ประกาศชัดเจนว่าไม่เอากาสิโน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีอาการใดๆ แต่พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นยัง 2 แคม ยังดูกระแสก่อน เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีการแตกกันภายในพรรคร่วมรัฐบาล หากผลักดันกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนมั่นใจว่ารัฐบาลล้มแน่นอน ซึ่งตนได้เตือนด้วยความหวังดี โดยแนะนำให้ยุติและถอยเรื่องนี้

โดยศ.ดร.เกรียงศักดิ์ มองว่า การที่เลขาฯ พรรคภูมิใจไทยออกมาประกาศไม่เอากาสิโนแบบนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะกำลังหาคะแนนเพื่อการเลือกตั้งรอบต่อไป ต้องการเป็นหัวหน้าแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในรอบหน้า ปี 2570 ซึ่งการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาพูดว่า เป็นการผิดคิวที่นายไชยชนกประกาศไม่เอากาสิโน ซึ่งไม่ใช่การผิดคิวอย่างแน่นอน แต่เป็นการแบ่งบทกันเล่นละคร เพราะนายไชยชนก เป็นถึงลูกชายคนโตผู้นำจิตวิญญาณของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือว่าเล่นบทลุย และนายอนุทิน เล่นบทลูบ พรรคภูมิใจไทยจึงมีทั้งตัวลูบและตัวลุย ซึ่งกำลังเล่นละครอยู่

ส่วนจะมีการนำเข้าพิจารณาในสภาทันทีที่เปิดสมัยประชุมหรือไม่นั้น ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เห็นชัดว่าดีลนี้ลุกลี้ลุกลน อาจจะมีดีลลับอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลัง อาจมีการตกลงกันมาแล้ว หรือ อาจจะมีการรับของมัดจำบางระดับไว้แล้วหรือไม่ จึงทำให้ยังถอยไม่ได้ ถ้าเกิดถอยเต็มสูบก็อาจจะถูกทวงมัดจำ ถ้ามีการมัดจำจริงๆ หากผลักดันกันสุดซอยก็จะมีปัญหาอย่างแน่นอน เป็นลักษณะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากดันต่อก็มีเรื่อง ซึ่งตอนนี้รัฐบาลอาจจะกำลังชั่งน้ำหนักดูอยู่ แต่ก็ต้องพยายามลากไปให้ไกลที่สุดก่อน หากไปไม่ไหวแล้ว อาจจะทิ้งทวน หากประคับประคองรัฐบาลไปไม่ไหวคงจะต้องยุบสภา ซึ่งยังมีความพยายามจะอยู่จนครบสมัย แต่ตนมองแล้วว่าโอกาสไปถึงสุดครบสมัยนั้นยากมาก หากไปไม่ไหวอาจยุบสภาปลายปีนี้ แต่ถ้าหากประคับประคองยังไปกันได้ตามธรรมชาติ คาดว่าจะยุบสภาปีหน้า

“ร่างกฎหมายกาสิโน รัฐบาลพยายามที่จะให้เกิด แต่โอกาสเกิดแทบไม่มีไม่พยายามไม่ได้เพราะจะเสียรังวัดทางการเมืองเพราะมีทั้งฝ่ายที่มัดจำไว้แล้ว แม้ในใจรู้อยู่แล้วว่าเกิดยาก แต่จำเป็นต้องเล่นละครให้สมบูรณ์เหมือนจะตั้งใจให้คลอดออกมาจริง ต้องดันให้สุด“

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ยังวิเคราะห์ด้วยว่า หากสถานการณ์การเมืองเป็นอย่างนี้ หลังสงกรานต์นี้รัฐบาลมีพยายามปรับ ครม.คาดว่าจะปรับไม่ใหญ่แต่อยู่ในระดับกลางซึ่งมีการต่อรองกันอยู่ เพราะพรรคภูมิใจไทยมีแรงต่อรองมหาศาล ไม่กล้าหักหาญน้ำใจกัน จึงพยายามมีการทวงคืนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน มีการพยายามแลกเปลี่ยนตัวกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ น่าจะมีการขยับ เมื่อปรับครม.ไปแล้ว ในพรรคร่วมรัฐบาลยังพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง อาจจะมีการยุบสภาได้ถ้าหมดทางเลือก ซึ่งเพื่อไทยและภูมิใจไทยไม่อยากยุบสภาเพราะทั้งคู่ยังไม่พร้อมไปสู่การเลือกตั้งเพราะหากยุบสภาเพื่อไทยเสียรังวัดคะแนนไม่ได้เนื่องจากนโยบายที่สัญญาตอนหาเสียงไว้ยังทำไม่ได้ และภูมิใจไทยยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลแต่ไม่ง่ายเพราะคะแนนเสียงในเมืองยังไม่ได้

“โอกาสยุบสภาอาจมีปลายปีนี้ แต่หากปล่อยไปตามธรรมชาติแบบนี้คาดว่าจะยุบสภาปีหน้า แต่ถ้าหากเศรษฐกิจโลกซ้ำเติม ส่งผลกระทบอย่างหนักและทำให้คนเดือดร้อน หนี้สาธารณะชนเพดาน หนี้ครัวเรือน และรัฐบาลไม่มีเงินแจกประชาชนที่กำลังเดือดร้อนหนัก เมื่อผู้คนไม่พอใจอาจจะลงถนนเมื่อคนเดือดร้อนจริงๆ ม็อบจะจุดติด และอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกระบบที่ไม่ใช่การเลือกตั้ง และมีโอกาสมากเมื่อรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ อีกทางหนึ่ง อาจเกิดจริยนิติสงคราม ที่ใช้ข้อกฎหมายอย่างถูกต้องมาต่อสู้เอาชนะกัน และหากไม่มีทางออกในระบบจะมีพรรคใหม่ ขึ้นมาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เป็นแบบผสมผสาน ธำรงนิยม แต่หากไม่มีพรรคใหม่ขึ้นมาเป็นทางเลือกการเมืองของไทยจะวนลูปอยู่ที่เดิมและถอยตกต่ำกว่าเดิม“ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น