ผู้แทน UNHCR ประจำประเทศไทย จี้ มหาดไทย แจงปมพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ 9 แห่ง กระทบผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา หลังถูกรัฐบาลสหรัฐฯตัดงบฯ "รองป.มท." รับจ่อ "ยกร่างแผนการดำเนินฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน หลังหารือร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ย้ำจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เร่งประสานทุกฝ่าย ผลักดันมาตรการที่ชัดเจนเหมาะสมโดยเร็ว
วันนี้ (17 เม.ย.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่หยุดสนับสนุนงบประมาณโครงการด้านการดูแลสุขภาพและการคุ้มครองในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ชายแดนไทย-เมียนมา
ผ่านองค์กร International Rescue Committee (IRC) เป็นระยะเวลา 3 เดือนเพื่อทบทวนนโยบายต่างประเทศ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อค่ายผู้ลี้ภัย
โดยเฉพาะ กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทในการบริหารจัดการพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ การจัดทำทะเบียนของผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) และควบคุมการเคลื่อนย้าย ซึ่งได้ทำงานร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ในการคุ้มครอง ช่วยเหลือ และปกป้องสิทธิของกลุ่มคนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นางแทมมี่ ลินน์ ชาร์ป (Ms. Tammy Lynn Sharpe) ผู้แทน UNHCR ประจำประเทศไทย และ น.ส.นีวีน อัลเบิร์ต (Ms. Nivene Albert) รองผู้แทน UNHCR ประจำประเทศไทย เข้าหารือการดำเนินการเกี่ยวกับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.)
เช่นกรณี ของสถานพยาบาลในศูนย์พักพิงฯ ที่ถูกตัดงบประมาณภายใต้นโยบายตัดงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ฝ่ายมหาดไทย มีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านการบริหาร น.ส.อรอุมา วรแสน ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ นายกฤษฎา กัลยาณะธรรม ผู้อำนวยการส่วนกิจการชายแดนและผู้อพยพ สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง
นายทรงกลด ขาวแจ้ง ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานนโยบายผู้อพยพและหลบหนีเข้าเมือง กองการต่างประเทศ สป.มท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกองการต่างประเทศ
ตัวแทน UNHCR ประจำประเทศไทย ได้กล่าว ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย ที่เปิดโอกาสให้เข้ามาหารือในประเด็นสำคัญ ตามที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีนโยบายตัดลดงบประมาณสนับสนุนด้านการบริหารแก่หน่วยงานที่ดำเนินงานด้านมนุษยธรรมทั่วโลก
"UNHCR จึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และใช้โอกาสนี้ในการพบปะผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
นายเชษฐา กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างแผนการดำเนินการต่อผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
"จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทยยังคงประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และจะเร่งผลักดันให้มีมาตรการที่ชัดเจนและเหมาะสมออกมาโดยเร็ว"
ทั้งนี้ ขอขอบคุณ UNHCR ประจำประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยกรมการปกครอง จะดำเนินการสนับสนุนและขับเคลื่อนตามแนวทางของรัฐบาลและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งในเชิงปฏิบัติและเชิงนโยบาย
ซึ่งเมื่อมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาแล้ว กระทรวงมหาดไทย จะสื่อสารให้พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ทั้ง 9 แห่ง รวมถึงจังหวัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) ที่อาศัยอยู่ ได้เข้าใจอย่างชัดเจนต่อไป
ปัจจุบัน พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ 9 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านใหม่ในสอย อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่ละอูน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่ลามาหลวง อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่หละ อ. ท่าสองยาง จ.ตาก พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านนุโพ อ.อุ้มผาง จ.ตาก
พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านต้นยาง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านถ้ำหิน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี.