xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยังกั๊ก เรื่องกาสิโน พูดเอาเท่ ไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์–กระแส ** บทโหด "บิ๊กต่าย" ได้ผลเบื้องหลังสถิติอุบัติเหตุ-คดีรุนแรงสงกรานต์ลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เฉลิมชัย ศรีอ่อน - พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ ปชป.ยังกั๊ก เรื่องกาสิโน พูดเอาเท่ ไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์–กระแส

เมื่อความสดชื่น รื่นเริง ดับร้อน กับเทศกาลสงกรานต์ผ่านไปแล้ว การเมืองก็กลับสู่โหมดเดิม เรื่องที่ยังอยู่ในกระแส และไม่ได้ลดดีกรีความร้อนแรง ยังคงเป็นเรื่อง โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สอดไส้กาสิโน

เพราะ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ช่วงปิดสมัยประชุมสภา ให้สส. ไปทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อตอนเปิดสภา จะได้นำร่างกฎหมายนี้กลับมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

ที่ผ่านมาคนของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ประธานวิปรัฐบาล กระทั่งสส. พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง อยู่แค่ว่า โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงเงินจากต่างชาติ แต่ถูกการเมืองบิดเบือนว่าเป็น บ่อนกาสิโน ทั้งๆ ที่มีอยู่แค่10% ไม่ใช่กฎหมายให้เปิดบ่อนได้ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ซะที่ไหน
เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสร้างงาน สร้างสกิลให้แรงงาน เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำให้คนไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น

แพทองธาร ชินวัตร
แต่ทั้งนายกฯ ทั้งรัฐมนตรี ไม่เคยพูดถึงผลการศึกษา ว่า องค์ประกอบในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่ละส่วนนั้น จะสร้างรายได้ปีละเท่าไร โดยเฉพาะกาสิโน ที่ว่ามีแค่ 10% นั้น จะทำเงินปีละเท่าไร เบ็ดเสร็จแล้วโครงการนี้ จะสร้างกี่แห่ง ที่ไหนบ้าง
ขณะเดียวกันเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะมีผลกระทบ หรือสร้างปัญหาต่อสังคมอย่างไรบ้าง ได้เตรียมแนวทางป้องกันแก้ไขอย่างไร
สิ่งเหล่านี้ นอกจากรัฐบาลจะไม่อธิบาย ไม่สร้างความเข้าใจให้ประชาชนคลายข้อสงสัยแล้ว รัฐบาลมีแต่ท่าที รวบรัด ลุกลี้ลุกลน จะผ่านร่างกฎหมายให้ได้

อารมณ์ของสังคมจึงรู้สึกว่า “กำลังถูกมัดมือชก” ...ไม่ต่างกับการลักหลับออกกฎหมายนิรโทษสุดซอยในอดีตเลย

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
จึงมีกระแสคัดค้านของภาคประชาชน เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาชาติ และพรรคภูมิใจไทย

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อย่างเช่น พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ที่มี “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และรมว.พลังงาน เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคนี้ถือว่า สืบทอด “ดีเอ็นเอ” ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่น่าจะยึดขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีของชาติ ให้คนไทยห่างไกลอบายมุข

พูดง่ายๆว่า ไม่น่าจะเห็นด้วยกับเรื่องที่ผิดศีลธรรม!!

แต่ท่าทีของ “พีระพันธุ์” ที่ให้สัมภาษณ์ล่าสุด ต่อร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า อะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย เราก็ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นด้วยตามมติของพรรคร่วมรัฐบาล หรือไม่ “พีระพันธุ์” บอกว่า ก็เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และมีประเด็นที่เราเคยให้ปรับปรุง เขาก็แก้ไขปรับปรุงแล้ว ดังนั้นเราก็พอรับได้...

“พีระพันธุ์” ซึ่งก็เป็นนักกฎหมาย ไม่ได้คิดเลยหรือว่า เขากำลังใช้พวกมากทำเรื่องผิดกฎหมาย ให้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย... แล้วอย่างนี้ จะต่างอะไรกับการ “ทุจริตเชิงนโยบาย” ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของกลุ่มที่มีอำนาจนี้ชอบกระทำกัน

เฉลิมชัย ศรีอ่อน
ส่วนที่บอกว่า มีประเด็นที่เราเคยให้ปรับปรุง เขาก็แก้ไขปรับปรุงแล้ว ดังนั้นก็พอรับได้นั้น ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นข่าวเลยว่า “พีระพันธุ์” ออกมาคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับประเด็นนั้น ประเด็นนี้ แล้วแนะนำว่าควรแก้ไข ให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้

การออกมาบอกว่า เห็นด้วย และพร้อมที่จะโหวตรับ ร่างกฎหมายกาสิโน จึงเป็นแค่ความต้องการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป มากกว่า
ส่วนท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ในยุคที่มี “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เป็นหัวหน้าพรรค และ “เดชอิศม์ ขาวทอง” เป็นเลขาธิการพรรค
เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ “เฉลิมชัย” บอกว่า รอให้ถึงเวลาก่อน เพราะวันนี้ยังไม่มีใครรู้เลยว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเดินต่อ หรือจะยังใช้เวลาทำความเข้าใจ และยังไม่รู้ว่า เมื่อทำความเข้าใจแล้ว กระแสจะออกมาแบบไหน ก็ต้องลองฟังประชาชนดูก่อน แต่สำหรับตนเองแล้วเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ต้องรอให้ถึงวันนั้น เพราะทุกพรรคจะทำไม่รู้ไม่ชี้คงเป็นไปไม่ได้ ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องตัดสินใจเช่นกัน แต่เราตัดสินใจด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่เอาอารมณ์ กับกระแสมาเป็นตัวตั้ง...
ฟังแล้วก็ต้องบอกว่าประชาธิปัตย์ยังสงวนท่าที เพราะคงเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะ “ฟันธง” ลงไปในวันนี้

เพราะเห็นอยู่แล้วว่า ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคอันดับ 2 ในพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเป็นอย่างไร และ กระแสสังคม เป็นอย่างไร

ที่สำคัญ รัฐบาลก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนในประเด็นที่เป็นปมปัญหาเลย

ประชาธิปัตย์ยุค“เด็กดี”ที่พร้อมตามใจรัฐบาล แต่ก็หวังเอาเท่ จึงเลนบท “แทงกั๊ก” ไว้ก่อน!!

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
++ บทโหด "บิ๊กต่าย" ได้ผลเบื้องหลังสถิติอุบัติเหตุ-คดีรุนแรงสงกรานต์ลด

เทศกาลสงกรานต์ทีไรมักเกิดอุบัติเหตุ เจ็บ-ตาย เยอะทุกปี แถมคดีประเภท "เมา" ก่อความรุนแรง ทะเลาะวิวาท ก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญชาวบ้านอีกพะเรอเกวียน แต่ปีนี้แตกต่างออกไป

สถิติอุบัติเหตุช่วง 7 วัน ควบคุมเข้มข้น ผ่านไป 5 วัน (11-15 เม.ย.) พบว่า เกิดเหตุ 1,216 ครั้ง ลดลงจากปีก่อน 22.89% ยอดเสียชีวิต 171 ราย ลดลงกว่า 24.67%

ถือเป็นการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ!

สะท้อนถึงความเข้มข้นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันว่า เบื้องหลังการคุมเข้มนี้ ในส่วนของตำรวจ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ลงมานั่งหัวโต๊ะ ประชุมวางมาตรการด้วยตนเองกับผู้ปฏิบัติทั้งระดับบริหาร และผู้ปฏิบัติจริงในพื้นที่ ขันน็อตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเมินผลติดตามการปฏิบัติทุกขั้นตอน

โดยมี 5 มาตรการหลัก เป็นปฏิบัติเชิงรุกออกมา ทั้ง 1.ด้านความปลอดภัยและข่าวกรอง ตำรวจทุกหน่วยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนเผชิญเหตุ แสดงกำลัง ตรวจค้น และควบคุมสถานการณ์ได้ทันที หากเกิดเหตุรุนแรง

2. ดูแลพื้นที่จัดงานใหญ่ 71 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ถนนข้าวสาร สนามหลวง เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ฯลฯ กำหนดจุดรับ-ส่ง จุดจอดรถ เส้นทางฉุกเฉิน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และควบคุมความหนาแน่นของประชาชน ป้องกันเหตุแทรกซ้อนและการก่อเหตุร้าย

3. ปราบปรามอาชญากรรม เร่งกวาดล้างอาวุธปืน ผู้ต้องหาหมายจับค้างเก่า คุมเข้มโครงการ “ฝากบ้าน 4.0” โดยรอบวันที่ 21-30 มี.ค. จับอาวุธปืนกว่า 5,000 กระบอก และผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า18,000 ราย ขณะเดียวกันจับชาวต่างชาติกระทำผิดกฎหมายเพิ่มกว่า 8,600 รายในช่วงต้นเดือน เม.ย.

4. จัดระเบียบการจราจร รับรถ 7 ล้านคัน โดยเฉพาะช่วงวันที่ 11-17 เม.ย. วางแผนเส้นทางหลัก-รอง จุดพักรถ-จุดชาร์จรถไฟฟ้า ตั้งจุดตรวจ 2,514 แห่งทั่วประเทศ จับกุมกว่า 361,342 ราย เน้น 5 ข้อหาหลัก “เมาแล้วขับ-ขับเร็ว-ไม่ใส่หมวก-ไม่คาดเข็มขัด- ขับย้อนศร” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถเร็ว ขณะเดียวกันมีการตรวจสอบความผิดซ้ำ หากเคยกระทำผิดมาแล้ว และถูกจับกุมอีก จะต้องถูกเพิ่มโทษ ล่าสุดโดนไปแล้วถึง 63 ราย

5. ประชาสัมพันธ์เข้มทุกช่องทาง กำชับทุกหน่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลเส้นทาง-ข้อห้ามให้ประชาชนรับทราบ ผ่านโฆษกตำรวจ และหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ พร้อมเปิดสายด่วน 191, 1599, 1197 และ 1193 ตลอด 24 ชม.

ประเด็นสำคัญที่ทำให้เทศกาลสงกรานต์ เป็นไปด้วยความสำราญ ชื่นฉ่ำ ฟังว่า ผบ.ตร. สวม"บทโหด" ขู่ใช้ยาแรงกับท้องที่ ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำซาก ไล่เช็กบิลตั้งแต่ระดับ ผกก. ถึงผู้การฯ!

เพราะไม่เพียงแต่โดนมาตรการทางปกครอง แต่จะถูกคิดบัญชีย้อนหลังในการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงปลายปี อย่างที่เคยเกิดมาแล้วกับ ผกก.บางท้องที่ ที่ทำหูทวนลม ไม่สนองนโยบาย ปล่อยให้มีบ่อน แหล่งอบายมุข รวมถึงค้ามนุษย์ ในช่วงฤดูแต่งตั้งที่ผ่านมา ต่างถูกเรียงแถวย้ายเข้ากรุกันนับสิบราย

ฉะนั้นเมื่อตัวอย่างมีให้เห็น หัวส่ายแล้ว หากหางยังไม่กระดิกอีก งานนี้ก็ต้องมีถูกตัดหางกันบ้าง ตรงนี้จึงสะท้อนให้ให้เห็นภาวะผู้นำ และความเฉียบขาดของ "บิ๊กต่าย" ได้เป็นอย่างดี!


กำลังโหลดความคิดเห็น