xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊งค์”อยู่นานยิ่งช้ำ ครบวาระอ่วม !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

มีการคาดการณ์กันว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะอยู่ไม่ครบเทอมจนถึงวันเลือกตั้งในปี 2570 เป็นแน่ ขณะที่บรรดา “ลูกน้องของพ่อ” ต่างก็ออกมาออกมาพูดออกมาเชียร์สวนทางว่า เธอต้องอยู่จนครบเทอมแน่ และจะนำพาพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งมากกว่าเดิม และกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้อีกรอบ

แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายย่อมต้องมีเหตุผล และแบ็กกราวด์ไม่เหมือนกัน ความคิดและเหตุผลจึงออกมาไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ในเมื่อเหตุการณ์ยังมาไม่ถึง ก็ต้องรอกันไปว่าผลสุดท้ายจะออกมาแบบไหนกันแน่

สถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ เชื่อว่าการเมืองจะร้อนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะมีการจับตาความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นั่นคือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย จากปัญหาในหลายเรื่องที่ผ่านมา ที่สำคัญกรณีท่าที เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายของนายเนวิน ชิดชอบ ประกาศกลางสภา ว่า “ไม่เอาด้วย”

แม้ว่าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะกล่าวว่า ไม่ได้ติดใจอะไร รวมไปถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะบอกว่าได้ขอโทษนายกรัฐมนตรีแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นแค่เรื่อง “ผิดคิว” กันก็ตาม และเชื่อว่านายกฯ สามารถบริหารความขัดแย้งได้นั้น คงเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น

เพราะเชื่อว่าในความเป็นจริงแล้ว มันไม่น่าจบลงง่ายๆ โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย และจากฝั่งของนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรค ที่เป็นผู้อุปถัมภ์สำคัญ ทั้งตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เพราะต้องรู้สึกว่าตัวเอง “เสียหน้า” เพียงแต่ว่าเป็นช่วงที่ต้อง “เก็บอาการ” เอาไว้ให้ได้มากที่สุด

แม้ว่ามีความเห็นออกมาจากคนในพรรคเพื่อไทยบางคน บอกว่าไม่มีปัญหาก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงระดับ “ลูกน้อง” ไม่ค่อยมีความหมาย

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึง การเมืองหลังสงกรานต์หลังเหตุการณ์ร้อนแรงที่ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศไม่เอากาสิโนก่อนปิดสมัยประชุม ว่า คงต้องให้พรรคภูมิใจไทยไปเคลียร์กันก่อนโดยมารยาทเราไม่อยากไปก้าวก่ายในพรรคภูมิใจไทย เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่าสนับสนุนรัฐบาล เราก็ต้องฟังหัวหน้าพรรค ก็ให้เขาคุยกันแล้วมาบอกรัฐบาล เป็นหน้าที่ของนายอนุทิน ต้องคุยกับเลขาพรรคตัวเอง เราไม่ไปก้าวก่ายเขา ถ้าอยากอยู่ร่วมรัฐบาล ต้องอยู่ทิศทางเดียวกัน อย่าไปเครียดช่วงสงกรานต์ต้องใช้ชีวิตเป็นสุข

“ในฐานะสส.พรรคเพื่อไทย ให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะบริหารความขัดแย้งได้ ก่อนเลือกตั้ง เราอยากแลนด์สไลด์ แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาแบบนี้ เป็นรัฐบาลผสมก็ต้องบริหารแบบนี้ นักดนตรีมาจากหลายวง เล่นเข้าขากันบ้างไม่เข้าขากันบ้าง เป็นธรรมดา เชื่อว่านายกฯ บริหารความขัดแย้งได้ และการตัดสินใจให้ใครอยู่ร่วมรัฐบาลต่อเป็นอำนาจของท่านนายกฯ ท่านทำงานใกล้ชิดรัฐมนตรีรู้ว่าเป็นอย่างไร”

แน่นอนว่า หลายคนกำลังจ้องมองไปที่ความขัดแย้งของทั้งสองพรรคดังกล่าว ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะหลังสงกรานต์ ว่าจะร้อนแรงขึ้นจนถึงขั้นแตกหัก หรือไม่ แต่เมื่อได้พิจารณาท่าทีล่าสุดของนายทักษิณ ชินวัตร ที่กล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ที่นั่น ทำให้เห็นว่าเขายังไม่พร้อมที่จะแตกหักกับพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะกับ นายเนวิน ชิดชอบ ในตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอก ไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย

ที่ต้องจับตากันก็คือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้าน ที่เวลานี้ถือว่า“ย่ำแย่” ไม่ดีเลย ไปทางไหนได้ยินแต่เสียงบ่น เงินในกระเป๋าลดลง ทำมาหากินลำบาก ซึ่งย่อมกระทบกับความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล ต่อพรรคเพื่อไทย และต่อนายทักษิณ ชินวัตร เพราะต้องไม่ลืมว่า ผลงานของรัฐบาล ผลงานที่ออกมาของ นายกรัฐมนตรี ล้วนแบกเอาศักดิ์ศรีของ นายทักษิณ เข้าไปเต็มๆ เพราะยิ่งเขามีบทบาทชี้นำมากเท่าไหร่ แต่ผลงานออกมาไม่เข้าเป้า มันก็หมายถึงหายนะข้างหน้าที่มองเห็นรำไรอยู่แล้ว

และที่สำคัญอย่างยิ่ง เรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่ควบคุมชี้นิ้วสั่งการได้ยาก เหมือนกับที่ไทยต้องเจอกับเรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่าการที่ นายทักษิณ จะอ้างว่าได้ต่อสายพูดคุยกับคนรอบตัวของ ทรัมป์ แล้วก็ตาม แต่หากพิจารณาจากวิธีการทำงานที่คงใช้วิธีการแบบไทยๆ คงไม่ได้ผล

อีกทั้งสำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ทางสหรัฐฯ คงไม่ได้ให้ความสำคัญ ไม่มีความหมายอะไร และที่สำคัญตำแหน่ง “พ่อนายกฯ” คณะเจรจาของสหรัฐฯ ไม่น่าจะคุยด้วยแน่นอน

อย่างไรก็ดี เมื่อได้เห็นอาการของ นายทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ ที่พยายามแสดงอาการออกมาให้เห็นในทุกเรื่อง จนถือว่า แสดงบทบาทนายกฯ อย่างเต็มตัวแล้ว นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขา “นั่งไม่ติด” จะทนอยู่ “หลังฉาก” แบบเดิมต่อไปไม่ได้แล้ว

สาเหตุก็ไม่มีซับซ้อน ก็มาจากความล้มเหลวของ ลูกสาวตัวเอง ในฐานะผู้นำถือว่าทำผลงานได้ห่างมาตรฐานไปมาก และยิ่งต้องมาเจอกับสถานการณ์ซับซ้อนไม่เป็นใจ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดอย่าง “กำแพงภาษีสหรัฐฯ” ที่เป็นเรื่องระดับโลกที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

แม้ว่า ในความเป็นจริงเบื้องหลังการบริหารจัดการล้วนมี “ทีมงาน” หลังบ้านทำแทนทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องมีทักษะ ความเป็นผู้นำอยู่บ้าง ต้องรู้จักคิด วางแผน สั่งการ มีการเรียกประชุมมีแนวทางของตัวเองบ้าง แต่หลังจากที่มีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ไม่ผ่าน” มันก็ยิ่งทำให้ นายทักษิณ ต้องเหนื่อยหนักทุกเรื่อง

ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งมันก็กลับกลายเป็น “ดาบสองคม” เพราะยิ่ง นายทักษิณ แสดงบทบาทนายกฯมากเท่าไหร่ มันก็เหมือนกับการไป “กดทับ” บทบาทของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จนเหมือนกับการด้อยค่าไร้ความหมายไปเลย แต่หากไม่เข้ามาแทรกแซงมันก็ทำให้ไปต่อได้ลำบาก

ดังนั้น ด้วยสถานการณ์และบรรยากาศแบบนี้ ที่หลายคนในพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร จะย้ำว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะบริหารรัฐบาลไปจนครบเทอมในปี 2570 ก็ตาม คงไม่มีใครเถียง เพียงแต่ว่าในสายตาของคนส่วนใหญ่ที่มองเห็นเวลานี้ ถือว่าน่าเป็นห่วง เหมือนกับว่า “เธอยิ่งอยู่นานยิ่งช้ำ” และหากลากยาวไปจนครบวาระ ก็น่าจะ “อ่วม” หนัก แน่นอน !!



กำลังโหลดความคิดเห็น