โฆษก พปชร.ชื่นชม ”ไชยชนก“ กล้าทำกล้าคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของพวกพ้อง เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่
วันนี้ (12เม.ย. 68) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวชื่นชม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยที่กล่าวอภิปราย ในการประชุมวันที่ 9 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา และแสดงความเห็นต่อต้านไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดยกล้าที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวแม้จะไม่สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นการกล้าทำ กล้าคิด เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่
”การที่นายไชยชนก ออกมากล่าวเช่นนั้น แสดงออกให้ เห็นว่า เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของพวกพ้อง และอยากเห็นความยั่งยืนความเจริญเติบโตของบ้านเมืองที่มันแข็งแรงต่อไป แม้จะถูกแรงเสียดสีจากพรรคแกนนำรัฐบาล อย่างหนักก็ตาม ในส่วนตัวขอแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจ และสิ่งสำคัญประการหนึ่งของผู้นำ คือจะต้องรู้ว่า อะไรควรอะไรไม่ควร สำหรับประเทศชาติ อะไรเป็นเรื่องสำคัญ อะไรรอได้ อะไรรอไม่ได้ ไม่ใช่จะเอาเรื่องผลประโยชน์มาเป็นตัวตั้งตลอด ในวันนั้นนายไชยชนกฯ เห็นแก่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากตึกถล่มและภาวะบีบคั้นเรื่องกำแพงภาษี ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนของประเทศ นับว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง“
พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าว ” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน. พรรคพลังพลังประชารัฐ ยืนยันเคียงข้างพี่น้องประชาชนประชาชนและไม่เห็นด้วยกับการมีบ่อนกาสิโน และการพนันออนไลน์ในประเทศไทยในทุกรูปแบบ สำหรับญัตติดังกล่าว จะต้อง“ถอน” ไม่ใช่“ถอย” คือ ”ยกเลิก“ไม่ใช่ “เลื่อน” เนื่องจากสภาวะสังคม ตลอดจนความเข้มแข็งของการบังคับใช้กฎหมายยังไม่เพียงพอ มาตราการป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนตลอดจนสังคมไทยในอนาคต ยังไม่เป็นรูปธรรม ได้มีการให้ สส. และผู้สมัคร สส. ออกประชาสัมพันธ์ผลเสียให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ให้รับทราบ และให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการต่อต้านกาสิโนเสรี ตลอดจน การร่วมล่ารายชื่อพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกาสิโนเสรี“
“ กรณีที่ท่านนายกฯ และ รมช. คลัง กล่าวว่า ได้มีการ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเห็นด้วย 70,000 กว่าคน ทางตน จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อขอมติพรรคพลังประชารัฐ ให้ดำเนินการตรวจสอบการเปิดรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชน ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ผ่านทางระบบกลางของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ที่อ้างว่า ทำการรับฟังความคิดเห็น ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 14 มี.ค. 2568 รวมระยะเวลา 15 วัน ว่าได้ทำโดยถูกต้องตามหลักวิชาการวิจัยหรือไม่ อย่างไร โดยทางพรรคฯจะขอข้อมูลที่เท็จจริง โดยทำหนังสือไปขอให้เปิดเผยข้อมูล จาก สศค. ดังนี้
1.หัวข้อสำรวจมีกี่หัวข้อ อะไรบ้าง
2.วิธีการกรอกข้อมูลทำด้วยวิธีใด มีการลงทะเบียน หรือเก็บข้อมูลผู้ที่มากรอกหรือไม่ ว่าเป็นบุคคลใด
3.มีระบบในการตรวจสอบการกรอกข้อมูลซ้ำหรือไม่
4.กรณี ผู้ตอบแบบสอบถามและแสดงความคิดเห็นทั้ง 71,283 คน ที่ทำการกรอกข้อมูลนั้น สามารถยืนยันตัวบุคคลได้หรือไม่ ถ้าได้ด้วยวิธีใด มีการแสดงความคิดเห็นซ้ำหรือไม่ จำนวนเท่าใด
5.แล้วประชาชนที่ไม่มีความรู้ในทางคอมพิวเตอร์จะกรอกข้อมูลได้หรือไม่ หรือได้ด้วยวิธีใด
ซึ่งกรณีดังกล่าว ทางพรรคฯ ได้รับ คำร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่า ได้ทดลองทำแบบสำรวจหัวข้อ 13 ข้อดังกล่าวแล้ว ปรากฎว่า แบบสำรวจเหล่านี้ ใครจะกรอกกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีการตรวจเช็คไอพีของเครื่องที่จะเข้าไปกรอกแบบสำรวจ ทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่แน่นอน คนเดียวกรอกหลายครั้งได้ ไม่มีการให้ใส่หมายเลขบัตรประชาชน หรือยืนยันตัว ซึ่งการกรอกแบบนี้ทำให้มีการใช้โปรแกรมอัตโนมัติ หรือ AIมาตอบแทนคนได้ หากการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทั้ง 70,000 กว่าชื่อไม่ได้แสดงตัวตนหรือไม่สามารถยืนยันตัวตนผู้แสดงความคิดเห็นได้ ถือว่าเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ “