xs
xsm
sm
md
lg

“โรงพิมพ์รุ่งศิลป์” ร้องนายกฯ เหตุ “องค์การค้าของ สกสค.” ข่มขู่-กรรโชก หวังเลิกรังควานโครงการจ้างพิมพ์แบบเรียนพัน ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977) จำกัด
“โรงพิมพ์รุ่งศิลป์” โร่ลงบันทึกกองปราบฯ-ร้องนายกฯ เหตุ “องค์การค้าของ สกสค.” ร่อน จม.เบรก กก.-ผู้บริหาร-พนักงาน ตรวจสอบโครงการจ้างพิมพ์แบบเรียน เรียกค่าเสียหาย 175 ล้านบ. ฉะเข้าข่ายข่มขู่-กรรโชกทรัพย์ สงสัย “รอง ผอ.” เซ็นหนังสือพลการ หรือบอร์ดที่ “เพิ่มพูน” เป็น ปธ.มอบหมาย จ่อฟ้องทั้งแพ่ง-อาญา เอาเรื่องยกพวง

วันนี้ (11 เม.ย.68) นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977) จำกัด (โรงพิมพ์รุ่งศิลป์) เปิดเผยว่า โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ และกรรมการบริษัทฯ ตลอดจนผู้บริหาร และพนักงานบางราย ได้มอบอำนาจให้ผู้แทนไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อเป็นหลักฐานกรณีที่ องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้มีหนังสือเรื่องแจ้งให้หยุดการละเมิด และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ลงวันที่ 3 เม.ย.68 ลงนามโดย นายภกร รงค์นพรัตน์ รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ปฏิบัติการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. มายัง โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ และกรรมการบริษัทฯทุกราย ตลอดจนผู้บริหาร และพนักงานบางราย ที่เข้าข่ายกล่าวหาใส่ความใส่ร้ายด้วยข้อความที่เป็นเท็จ และถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาข่มขู่ และขู่กรรโชก เนื่องจากมีการขอให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินมากถึง 175 ล้านบาทภายใน 7 วัน มิเช่นนั้นจะดำเนินคดี โดยอ้างเหตุที่ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ได้ร้องเรียน และฟ้องคดี อันเป็นการตรวจสอบโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ในช่วงที่ผ่านมาก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์การค้าของ สกสค.


“นอกจากลงบันทึกประจำวันที่กองปราบฯ แล้ว ก็ได้มีหนังสือโต้แย้งไปยังเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และแจ้งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมไปยังทุกหน่วยงานที่ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ได้ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ไว้ อีกทั้งยังได้ร้องเรียนถึง นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในส่วนของ นายภกร ตลอดจนถึงคณะกรรมการ สกสค.หากมีส่วนรู้เห็น ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการข่มขู่ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ผู้ที่ทำการตรวจสอบหน่วยงานของรัฐเช่นนี้” นายนัทธพลพงศ์ ระบุ


นายนัทธพลพงศ์ กล่าวต่อว่า คำถามมีว่า การที่ นายภกร เป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับนี้ในนามปฏิบัติการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ตลอดจนในอ้างถึงได้ระบุว่า เป็นหนังสือที่ออกในนามคณะกรรมการ สกสค. ไม่ว่าเป็นการกระทำโดยพลการ หรือได้รับมอบหมาย คณะกรรมการ สกสค. ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ก็จะต้องร่วมรับผิดต่อการกระทําของ นายภกร ดเนื่องจากองค์การค้าของ สกสค.ไม่ได้มีสภาพเป็นนิติบุคคล ไม่อาจออกหนังสือเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ หากแต่ต้องพิสูจน์ว่า นายภกร แอบอ้างและทำการโดยพลการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เกิดความเสียหายเท่านั้น ยังมีลักษณะเข้าข่ายข่มขู่ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337-338 อีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็จำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาล ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง เพื่อพิสูจน์ความจริง และปกป้องความเสียหายทั้งในแง่ธุรกิจการค้า และชื่อเสียง ด้วยเช่นกัน

ภกร รงค์นพรัตน์ รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.
นายนัทธพลพงศ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ได้ใช้สิทธิ์ทางศาล องค์กรและหน่วยงานตรวจสอบ หรือร้องเรียนคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตลอดจนสื่อมวลชน ก็เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย และตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ จะถือว่า โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ กระทำการให้องค์การค้าของ สกสค. และผู้เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายเสื่อมเสียหรือกระทบต่อกิจการค้าขององค์การค้าของ สกสค.ไม่ได้ ในทางกลับกันก็มีข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และข้อพิจารณาวินิจฉัยโดยหน่วยงานตรวจสอบของรัฐ ที่บ่งชี้ว่า องค์การค้าของ สกสค.มีพฤติการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามขอบเขตงาน (ทีโออาร์) จนหนังสือแบบเรียนที่ผลิตและออกจําหน่ายผ่านองค์การค้าของ สกสค.ไม่ได้คุณภาพตามที่กําหนด

และยังกระทำการส่อไปในทางทุจริต ล็อกสเปก และกีดกันทางการแข่งขันผ่านการกำหนดหลักเกณฑ์ในทีโออาร์ที่ไม่เป็นธรรม อันเป็นผลให้ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ เป็นฝ่ายเสียหายจากการกระทําขององค์การค้าของ สกสค.มากกว่า โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ จึงมีหนังสือลงวันที่ 8 เม.ย.68 โต้แย้งไปยัง องค์การค้าของ สกสค. รวมทั้งติดตามทวงถามเงินค่าจ้างคงค้างสําหรับการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ดอกเบี้ย เบี้ยปรับล่าช้า และค่าเสียหาย เป็นจํานวนเงินราว 186 ล้านบาท โดยขอให้ชำระภายใน 7 วันนับจากที่ได้หนังสือ ส่วนค่าเสียหายที่องค์การค้าของ สกสค.อ้าง และเรียกร้องมายัง โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ และผู้เกี่ยวข้องนั้น ขอให้ไปดําเนินการใช้สิทธิทางศาล เพื่อจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป


“ตลอดระยะเวลาที่ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ เข้ามารับจ้างงานพิมพ์หนังสือแบบเรียนกับองค์การค้าของ สกสค. ก็พบ เห็นความไม่ชอบมาพากล และยังได้รับผลกระทบทางธุรกิจหลายต่อหลายกรณี กระทั่งต้องพลิกบทบาทมาทำหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อหวังว่าจะรื้อขบวนการผลประโยชน์ภายในองค์การค้าของ สกสค. ไม่เพียงเพื่อปกป้องชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานของ โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ เท่านั้น ยังหวังให้การผลิตหนังสือแบบเรียนโดยหน่วยงานของรัฐเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เพื่อที่ผู้บริโภค ทั้งผู้ปกครองและนักเรียน จะได้หนังสือแบบเรียนที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผลด้วย” นายนัทธพลพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย.






กำลังโหลดความคิดเห็น