ศาลปกครองกลาง สั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ให้นายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา และสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีแก้ไขปัญหาภายใน 15 วัน กรณีหญิงชราวัย 77 โปรยข้าวเลี้ยงนกพิราบจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
วันนี้ (11 เม.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า กรณีชาวหมู่บ้านซอยรุ่งเรือง 5 หมู่ 15 ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ นางประไพศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี โปรยให้อาหารนกพิราบ ในหมู่บ้านทุกวัน จนมีนกพิราบแห่กันมาทำรัง ออกลูกอยู่อาศัยในหมู่บ้าน ถ่ายมูลรดเสื้อผ้า รถยนต์ ต้นไม้ และเสี่ยงที่จะนำเชื้อโรคไข้หวัดนก H5N1 มาแพร่ สร้างความวิตก ความเดือดร้อนและเสียหายให้กับชาวบ้านในพื้นที่มานาน ซึ่งมีสื่อมวลชนหลายแขนงมารายงานข่าวไปแล้วมากมายนั้น
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและสั่งห้ามไม่ให้นางประไพศรี ให้อาหารนกอีก ซึ่งนางประไพศรีก็รับปากว่าจะหยุดให้อาหารและได้มีการทำบันทึกข้อตกลงกันไว้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมดังกล่าวของนางประไพศรีได้ เนื่องจากไม่มีมาตรการบังคับอย่างจริงจัง
สมาคมฯ จึงได้ช่วยเหลือยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อเอาผิดนายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา และสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ฐานละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ตามมาตรา 9(2) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ 2542 เนื่องจากไม่ยอมบังคับใช้ ม.27 ม.28 ประกอบ ม.74 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณาสุข 2535 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ ล่าสุด ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาโดยสั่งให้นายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา ใช้อำนาจออกคำสั่งและดำเนินการตามมาตรา 27 และมาตรา 28 ประกอบมาตรา 74 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 เพื่อระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญต่างๆ อันเกิดจากการกระทำของนางประไพศรี ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง และรายงานการปฏิบัติตามมาตรการให้ศาลทราบ ซึ่งหากนางประไพศรีฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
“คำสั่งดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในละแวกหมู่บ้านรุ่งเรืองและใกล้เคียงตำบลบางรักพัฒนา ร้องเฮต่างดีอกดีใจกันอย่างมาก เพราะเริ่มเห็นทางสว่างที่จะยุติปัญหาเกี่ยวกับมนุษย์ป้าที่ชอบโปรยข้าวเลี้ยงนกพิราบในหมู่บ้านที่สร้างเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 10 ปีได้เสียที”