กมธ.กิจการศาลฯ เผย สตง.ชี้แจงปมสร้างตึกใหม่ เป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอน ไม่มีการแก้ไขโครงสร้างเสาให้เล็กลง-คุณภาพเหล็ก ปูน ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่มีการลดคุณภาพ พร้อมแถลงผลเร็วๆ นี้ ตั้งข้อสังเกต กม.ควบคุมอาคาร เปิดช่องก่อสร้างอาคารส่วนราชการ ไม่ต้องแจ้งโยธาฯ-เจ้าของพื้นที่ เป็นช่องโหว่การตรวจสอบ
วันนี้ (10 เม.ย.) นายสัญญา นิลสุพรรณ ประธานคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน และคณะ แถลงภายหลังการประชุมการพิจารณาเหตุการณ์ศึกษาประเด็นปัญหาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จากเหตุอาคารสำนักงานแห่งใหม่ถล่ม จากสาเหตุแผ่นดินไหว โดย กมธ.ได้ซักถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารดังกล่าวตั้งแต่การออกแบบ การจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้าง และการควบคุมงานก่อสร้าง รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามความคืบหน้าการตรวจสอบหาสาเหตุตึกถล่ม การกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับเรื่องข้อเท็จจริงและหาผู้กระทำความผิด ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งคณะ กมธ.จะรอคำตอบและหาช่องทางที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมต่อไป อย่างไรก็ตาม สตง. ยืนยันข้อเท็จจริงและยินดีให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบเช่นกัน
น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ โฆษกคณะ กมธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สตง. เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระ ซึ่งคณะ กมธ.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก โดยจะพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านภาพลักษณ์ในหลากหลายประเด็น เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุการณ์ สตง. ยังไม่ได้ชี้แจงถึงแผนการดำเนินงานต่อไป คณะ กมธ.จึงได้ตั้งข้อสังเกตและสอบถามถึงการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการก่อสร้าง การออกแบบ การจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างและการควบคุมงาน เนื่องจากการก่อสร้างในครั้งนี้เป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทเอกชนของประเทศไทย ร่วมกับบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งมีคำถามจากประชาชนที่ตั้งข้อสงสัยว่ามีกระบวนการคัดเลือกบริษัทอย่างไร และมีกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับหรือไม่
น.ส.พนิดา กล่าวว่าในเบื้องต้น สตง.ได้ยืนยันว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป็นไปตามระเบียบและไม่ได้ลดคุณภาพวัสดุที่ใช้ในกระบวนการก่อสร้าง ส่วนเรื่องการเยียวยาและรับผิดชอบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง สตง. ยืนยันว่า ไม่ได้เพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยู่บริเวณหน้างานตลอดเวลา ส่วนประเด็นการประกันภัยตัวอาคาร ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง คือ บริษัทที่ดำเนินการก่อสร้าง จะได้รับการชดเชยอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบทุกขั้นตอน ซึ่งเร็วๆ นี้ สตง.จะจัดงานแถลงข่าวครั้งใหญ่เพื่อตอบคำถามทั้งหมดของพี่น้องประชาชนและสังคม
นอกจากนี้ คณะ กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตถึง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในมาตรา 7 มีการยกเว้นสำหรับการก่อสร้างอาคารของส่วนราชการ ไม่จำเป็นต้องแจ้งโยธาธิการ หรือเจ้าของพื้นที่ จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้เกิดช่องว่างทางกฎหมาย และสามารถใช้กลไกในการตรวจสอบที่เคร่งครัดกว่านี้ได้ ทั้งนี้ ทางสภาผู้แทนราษฎร และคณะ กมธ. จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ และทาง สตง. ก็ยินดีรับข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ที่เคยได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจาก สตง. และยืนยันว่า จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบต่อไป โดยจะบูรณาการการทำงานเพื่อให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น รวมทั้งพิสูจน์ตนเองเพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ มีค่านิยมในการเป็นองค์กรที่โปร่งใส
นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ รองประธานคณะ กมธ. กล่าวว่า สิ่งที่คณะ กมธ.คาดหวัง คือ การที่ สตง. จะออกมาแถลงต่อประชาชนและสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินของหน่วยงานภาครัฐ จึงหวังว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันหรือสูงกว่าในการตรวจสอบหน่วยงานของตนเอง เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมา