นายกฯ ไม่ติดใจ “ไชยชนก” ประกาศกลางสภา ไม่เอากาสิโน ชี้ เป็นเรื่องภายใน ภท.เคลียร์กันเอง บอกไม่หนุนความขัดแย้ง ไม่อยากทะเลาะ ตื่นมาแล้วหน้าไม่สดใส ขณะที่ “อนุทิน” รีบปัดพัลวันการโหวตต้องเป็นมติพรรค แม้ส่วนตัวไม่เห็นด้วย ขอโทษนายกฯ แล้ว
เมื่อเวลา 09.05 น. วันนี้ (10 เม.ย.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า จะทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีหลังที่ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภา ค้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ได้คุยกันแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ เข้าใจหรือไม่ ว่า สิ่งที่ นายไชยชนก พูดเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กล่าวขออภัยนายกฯ ไปแล้ว ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้ชี้แจงว่า ไม่ใช่มติพรรค แต่เข้าใจว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่า ในวันลงมติโหวตพรรคภูมิใจไทย จะให้เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แต่ละบุคคลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวแทรกทันที ว่า ไม่ครับสนับสนุนรัฐบาล เมื่อถามว่า แม้ว่า นายไชยชนก จะเป็นเลขาธิการพรรค จะต้องทำตามมติของพรรคใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องทำตามมติพรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจกันอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า ได้ทำความเข้าใจกับนายไชยชนกแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า เห็นว่า นายไชยชนก มีความเครียดอยู่ ในขณะที่อภิปราย ขอให้เขาได้พัก 1 ถึง 2 วัน
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ติดใจใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าไม่มีอะไร และเคยได้คุยกับเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นอกรอบอยู่แล้ว และทราบว่า นายไชยชนก เป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติ และอุทกภัยต่างๆ ยังพูดถึงเรื่องของฝนและน้ำท่วม และแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้ แต่การอภิปรายเมื่อวานอาจจะมีหลายเรื่องหลายประเด็น อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยที่จะต้องไปเคลียร์กันเอง ในส่วนของตนเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเคยมาคุยแบบส่วนตัวอยู่แล้ว เรื่องเป็นห่วงบ้านเมือง และเข้าใจว่ามีหลายประเด็นที่ยังไม่พูดถึง
เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ด้วยกันกับนายไชยชนก จะมีโอกาสพูดคุยส่วนตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดคุยได้อยู่แล้ว และไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ต้องบอกประชาชนว่า เวลาที่ไปอยู่หน้ากล้อง หรือไปอยู่ที่ที่มีแรงกดดันเช่นในสภา แม้แต่ตนเองเวลาพูดยังตื่นเต้น เพราะอาจมีหลายประเด็นที่พูดถึงได้ และอาจไม่ได้ออกมาอย่างที่ตั้งใจ อาจจะมากไปน้อยไปเกิดขึ้นได้อยู่แล้วกับเวลาที่พูดในสาธารณะ
เมื่อถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะสามารถคุมสภาพภายในพรรคได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ค่ะ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น และคิดว่าเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายทุกอย่างเสนอรัฐสภาด้วยกันคิดว่าน่าจะคุยกัน และทำความเข้าใจว่าอะไรอยากให้ปรับ และตนก็ไม่สนับสนุนเรื่องความขัดแย้ง เพราะประเทศจะไปต่อยาก คิดว่าเป็นอย่างนั้นดีกว่า ไม่อยากทะเลาะกันแล้วตื่นมาทำงานไม่สดใส เจอหน้ากันรู้สึกแปลกไม่อยากเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า จะรับสภาพกับวันหนึ่งเป็นอย่างนึงอีกวันเป็นอีกอย่างนึงได้หรือไม่ นายอนุทิน รีบกล่าวแทรกขึ้นว่า ผมดีตลอด ไม่มีวันไหนไม่ดีอย่าถามนายกฯ แบบนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บางทีเป็นข่าวหรือเป็นข่าวลือที่ได้ยินมา เป็นสถานการณ์ต่างๆ แต่ที่จริงอาจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ทั้ง 2 พรรคหรือทุกพรรค ว่า ข่าวลือพรรคนั้นทำอย่างนั้นพรรคนี้ทำอย่างนี้ฝ่ายค้านทำอย่างนั้นรัฐบาลทำอย่างนี้ เพราะเป็นเรื่องของการเมืองเราต้องพูดคุยกันเยอะๆ เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องสื่อสารให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นหรือไม่เพราะภายในพรรคร่วมยังไม่เข้าใจกันแล้วประชาชนทั้งประเทศจะเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลทำได้อย่างไรนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอน้อมรับตรงนี้ไปปรับปรุง จะปรับ โดยการคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้เยอะขึ้น