“ไชยชนก” ประกาศกลางสภาฯ “เป็นลูกเนวิน” ยืนยันไม่มีวันเห็นด้วยกับกฎหมายกาสิโน แม้แต่ “ภูมิใจไทย”เสนอมา ก็ไม่เอาด้วย ขณะที่แก้ปัญหาสหรัฐฯขึ้นภาษี เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน นายกฯ ไม่มีคุณสมบัติไปคุยกับ ”ทรัมป์” เพราะแม้แต่เทวดาก็คุยไม่รู้เรื่อง
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.เวลา 13.30 น.น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพานร รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ในระหว่างพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา 10 ญัตติ ให้สภาฯพิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาแผนการรับมือจากภัยพิบัติธรรมชาติ และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมทั้งภัยความมั่นคงจากสถานการณ์โลก ว่า ก่อนที่ตนจะเข้าเนื้อหาในญัตติ ขอพูดผ่านประธานฯ ไปถึงนายกฯ ขอบคุณนายกฯ จากใจจริง การที่เราได้มีโอกาสอภิปรายในเรื่องที่เป็นประโยชน์และสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวไทยในวันนี้ เครดิตต้องอยู่ที่นายกฯท่านเดียว ได้ฟังสิ่งที่ท่านได้สัมภาษณ์ประเด็นที่ท่านให้ความสำคัญ
นายไชยชนก กล่าวต่อว่าตนขอบอกเลยว่าวันนี้สำหรับตน ท่านนายกฯ ได้โชว์วุฒิความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง สำหรับตนนายกฯ คือนายกฯ ของประเทศไทยอย่างแท้จริง นายกฯ ได้มองถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทยก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว นายกฯได้ตระหนักถึงข้อมูลที่ตนแม้จะเป็นแต่นักการเมืองตัวเล็กๆคนหนึ่ง ไปนำเสนอจากใจดด้วยความเป็นหวง ซึ่งมีทั้ง 3 เรื่องที่ท่านได้แถลง และ 3 เรื่องที่ตนเสนอในญัตติวันนี้ สำหรับตนอยากจะฝากไปถึงท่านนายกฯ ว่าตนให้คำสัญญาว่าจากนี้เป็นต้นไป ตนจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง สติปัญญาที่ตนมีเพื่อสนับสนุนท่านนายกฯ ด้วยความสุจริตใจ ตราบใดที่ท่านมองถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทยมาก่อนอย่างนี้ต่อไปด้วยความจริงใจ
“ผมขอประกาศในสภาฯ ว่าผม นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ ผมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโนและไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุกๆ พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาแล้วนำเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา เพราะสำหรับผมและทุกอย่างที่ผมได้ศึกษามามันมีเรื่องเร่งด่วนที่ด่วนกว่ามหาศาล ถ้าพวกท่านสงสัยว่าทำไมเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหลายที่สุดผมที่ไม่เคยหิวแสง ไม่เคยต้องการสัมภาษณ์ ไม่เคยตอบโต้ กระทั่งที่โดนเข้าใจผิดโดยสังคม ทำไมต้องทำขนาดนี้ ผมอยากขอให้พวกท่านให้เวลาผมสักนิดแล้วตั้งไจฟังข้อมูลต่างๆ ที่ผมได้รวบรวมสะสมมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้อชาวไทยทุกคน” นายไชยชนก กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายนายไชยชนกได้เชื่อมโยงปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาทิ พายุไต้ฝุ่น ไฟป่า แผ่นดินไหว ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสภาวะโลกเดือด รวมถึงปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุภัยพิบัติมาอธิบายต่อที่ประชุมอยู่เป็นเวลานาน ทำให้ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ประท้วงว่าพูดนอกประเด็น ไม่ตรงกับเนื้อหาเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แต่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม วินิจฉัยว่า ญัตติของนายไชยชนกที่เสนอคือแผนการรับมือภัยพิบัติธรรมชาติและแผนวิกฤติเศรษฐกิจโลก จึงถือว่าเนื้อหายังอยู่ในญัตติ แต่ขอให้รีบสรุปประเด็น เพราะยังมีผู้อภิปรายเหลืออีกจำนวนมาก
จากนั้นนายไชยชนกจึงตัดเข้าสู่เนื้อหาเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ประเทศไทยต้องรีบแก้ปัญหา โดยกล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับฝ่ายค้านที่บอกว่า นายกฯ ไม่มีคุณสมบัติไปคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่ใช่เพราะนายกฯ ไม่มีศักยภาพ เพราะต่อให้จีน ยุโรป รัสเซียไปคุย ก็ไม่รู้เรื่อง แม้แต่เทวดาไปคุยก็ไม่รู้จะรู้เรื่องหรือไม่ วันนี้ต้องยอมรับสถานการณ์ความเป็นจริง นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทรัมป์จะทำ จะดุเดือดและรุนแรงขึ้น