ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ มหากาพย์ “คดีเอิร์ธ” รอบนี้มีขาใหญ่ “ประเสริฐ” อดีตบิ๊กปตท.-ประธานฯ “วรภัค” ที่ปรึกษาขุนคลัง “พิชัย” ก็มาเอี่ยวคดีถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา
คดีมหากาพย์ “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” ที่สร้างเรื่องปั้นราวโครงการลงทุนเหมืองถ่านหินและนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซียลวงขอสินเชื่อแบงก์กรุงไทย สุดท้ายกลายเป็น “ถ่านหินทิพย์” เงินกู้กลายเป็น “หนี้เสีย” กว่า1.2 หมื่นล้าน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตั้งแต่ปี 2560-2562 ล่าสุดเว็บไซต์ ป.ป.ช. เผยแพร่รายชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้มีจำนวน 32 ราย
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และ เจ้าหน้าที่มีทั้งอดีตและยังมีตำแหน่งในปัจจุบัน จำนวน 19 ราย มีอดีตประธานกรรมการบริหาร 2 ราย ที่เหลือเป็นกรรมการบริหาร กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการฝ่าย เจ้าหน้าที่อาวุโสเป็นต้น
รายชื่อทั้ง 19 ราย ไล่ตั้งแต่ 1. นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร 2. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ประธานกรรมการบริหาร 3. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ กรรมการบริหาร 4. นายปุณณิศร์ ศกุนตนาค กรรมการบริหาร 5. นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่
6. นายปริญญา พัฒนภักดี กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 7. นายเกษม แพใหญ่ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 8. นายปานะพันธ์ หาญกิจจะกุล กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 9. นายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 10. นายชัยณรงค์ อิษฎาวงศ์ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ
11. นางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 12. นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 13. นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 14. นางจรี วุฒิสันติ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 15. นางสาวนางสาวศิริกาญจน์ หรือ ยุพา ชนะอุดมสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 1
16. นางสาวภัทริกา โสตถิสุพร ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม3 17. นางสาวชลธิชา วงศ์วิทยวณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสวิเคราะห์สินเชื่อ (AO) ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม3 18. นางสาวกิจฏภัทศ์ ทองพิทักษ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ (AO) ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม 3 และ 19. นางสาวสุพรรณษา วันวัฒนกุล รองผู้อำนวยการฝ่าย Dept Capital Market 2
ขณะที่กลุ่มที่ 2. กลุ่มผู้บริหารบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) มีทั้งกรรมการผู้มีอำนาจ และที่ปรึกษาประกอบไปด้วย 20. บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ โดย ขจรพงศ์ คำดี 21. บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) โดย ขจรพงศ์ คำดี 22. บริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด โดย ขจรพงศ์ คำดี 23. นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด
24. นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด 25. นายพิพรรธ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด
26. นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด 27. นายพิบูล พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด
28. นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด 29. นางสาวกาญจนา จักรวิจิตโสภณ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ 30. นายนุกูล ศรีอินทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ
31. นางเยาวลักษณ์ ลิขิตวัฒนานุรักษ์ ที่ปรึกษา บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ และ 32. นายสุธีร์ สวัสดี ที่ปรึกษา บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ
ข้อกล่าวหาเป็นทางการ คือ ร่วมกันพิจารณาอนุมัติในการอำนวยสินเชื่อด้วยการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อความจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อสูงเกินกว่าหลักเกณฑ์ ที่ธนาคารกรุงไทย กำหนดไม่ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์และผิดวัตถุประสงค์ ของการขอสินเชื่อในวงเงินแต่ละประเภท
งานนี้ก็น่าสนใจเพราะ ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และเจ้าหน้าที่ ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา ปัจจุบันบางรายยังมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในธนาคารกรุงไทยอยู่ ขณะที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานคณะที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย
อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าการไต่สวนคดีของป.ป.ช. ล่าสุดบุคคลที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีนี้ ได้ทำหนังสือหรือชี้แจงข้อกล่าวหาต่อคณะไต่สวนครบทุกรายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนเพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาสำนวนการไต่สวนต่อไป
ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการลงมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ผู้เกี่ยวข้องที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ซึ่งก็ต้องลุ้นระทึกกันต่อไปว่า จะโดนหรือไม่โดนอย่างไร !
++ ไอ้เสือถอย!! ลดกระแสต้านกาสิโนก่อนพัง ส่วนถอยชั่วคราว หรือถอยยาว ต้องวัดใจ “แม้ว”
ในที่สุด วาระของ “สทร.” ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “กาสิโนคอมเพล็กซ์” ผ่านทาง รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยไม่สนสี่สนแปด ก็มีอันต้องสะดุดหยุดลงชั่วคราว
เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ขอแรงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด มาร่วมยืนเรียงแถวเป็นวอลเปเปอร์ ข้างโพเดียม เพื่อแถลงเลื่อนการพิจารณา ร่างกฎหมายกาสิโนคอมเพล็กซ์ ที่บรรจุเป็นเรื่องด่วน เข้าสู่วาระการพิจารณาของสภา ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ออกไปก่อน
โดยบอกว่าเป็นมติของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เห็นว่า เรื่องแผ่นดินไหว ตึกถล่ม และเรื่องสหรัฐอเมริกาตั้งกำแพงภาษีขาเข้าสูงถึง 37% เป็นเรื่องเร่งด่วน ที่สภาควรจะได้พิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้ก่อน
ทั้งที่ก่อนหน้า ในสภาก็เถียงกันหน้าเขียว หน้าดำว่า แผ่นดินไหว ตึกถล่ม กับ กาสิโน อันไหนเร่งด่วนกว่ากัน
ขณะที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ“วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล ต่างออกมาเล่นบทหัวหมู่ทะลวงฟัน ตอบโต้ฝ่ายคัดค้าน หวังให้เข้าตานายใหญ่
“ภูมิธรรม”ถึงกับบอกว่า เพราะสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษี เราจึงต้องรีบมี “คอมเพล็กซ์” มาเสริมสร้างรายได้ แทนภาคการส่งออก
แม้แต่ตัว “ทักษิณ”เอง ยังมีข่าวว่าได้ออกมาขู่พรรคร่วมรัฐบาล สั่งต้องโหวตหนุนร่างกฎหมายนี้เท่านั้น หากใครแตกแถวจะถูกเขี่ยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
ตั้งธงจะเอาให้ผ่านวาระรับหลักการ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 10 เม.ย.นี้ให้ได้
ท่าทีดังกล่าวของ “ทักษิณ” ได้สร้างความ “หมั่นไส้” แก่คนไทยไปค่อนประเทศ กระแสต้านจึงก่อตัวอย่างรวดเร็ว กว้างขวาง แทบทุกวงการ ออกมาแสดงเจตจำนง นัดแสดงพลัง แสดงสัญลักษณ์ “ไม่เอากาสิโน”กันอย่างคึกคัก
ภาคประชาชน ที่มีแกนนำอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์ -ทนายนกเขา- พิชิต ไชยมงคล- หมอวรงค์-หมอตุลย์” ก็นัดมวลชน ชุมนุมคัดค้านที่หน้ารัฐสภา
พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง“พรรคประชาชาติ” ที่ สส.เกือบทั้งพรรคนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่ง “การพนัน” ถือเป็นเรื่องที่ขัดหลักศาสนา ล่าสุดทางพรรคได้ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนชัดเจน หนักแน่นว่า ไม่รับหลักการ ร่าง กม.กาสิโน เพราะกลัวว่าจะส่งผลกระทบในทางลบต่อสังคม วัฒนธรรม และศีลธรรมของเยาวชน และประชาชน
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” แม้จะยอมเปิดไฟเขียวในชั้นครม. แต่ก็ตีธง ส่งสัญญาณ ให้ “กลุ่มสว.สีน้ำเงิน” ออกมาแสดงพลัง “ชูกากบาท” ค้านกาสิโน...ด้วยเหตุผลว่า ร่างกฎหมายทำอย่างเร่งรัด ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีการจัดทำประชามติ ขัดต่อหลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อย่างร้ายแรง...
ส่วน“พรรคพลังประชารัฐ” ที่ถูกทักษิณ เขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ออกมาแสดงจุดยืนชนิดค้านหัวชนฝา ค้านถึงที่สุด ถึงขั้นที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคประกาศว่า หากค้านในสภาแล้วยังเอาไม่อยู่ ก็พร้อมที่จะลงถนน มาผนึกกำลังกับภาคประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ไม่อาจมองข้าม จาก “เครือข่ายของลุงป้อม” คือ การออกมาร่วมลงชื่อคัดค้าน ของเหล่าอดีต ส.ว.หลายยุคหลายสมัย นำโดย อดีตประธานวุฒิสภา 3 คน ได้แก่ “พลตรี มนูญกฤต รูปขจร” อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2543 “พล.อ.ธีรเดช มีเพียร” อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2554 และ “พรเพชร วิชิตชลชัย” อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2562
ยังมีอดีตเหล่าอดีตสว. อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมลงชื่อเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม , นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ,สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร ,คำนูณ สิทธิสมาน, ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ,สมชาย แสวงการ เป็นต้น
เป็นจังหวะการก้าวเดินของอดีตสมาชิกรัฐสภา ที่สอดคล้องกับพรรคพลังประชารัฐ จึงไม่อาจมองข้ามพลังที่จะเกิดขึ้น
อีกทั้ง “กาสิโน” ถือเป็นนโยบายรัฐบาล ที่ท้าทายบรรทัดฐานทางศีลธรรมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก การมีกฎหมายรองรับ อาจทำให้ระยะยาวเสี่ยงต่อการล่มสลายในทางศีลธรรม และผลกระทบอื่นๆได้
ภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวนอกสภา อาจ “จุดติด” จากการต้านกาสิโน เมื่อบกกับท่าทีของรัฐบาล ที่มักใช้เสียงข้างมากลากไป แบบไม่ฟังเสียงประชาชน การเคลื่อนไหวอาจจะยกระดับขึ้นไปเป็นขับไล่รัฐบาล และสุดท้ายอาจถึงขั้น “ปูพรมแดง” ให้กับอำนาจนอกระบบอีกครั้ง
นี่คงเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายที่ “ทักษิณ” ยังหวาดผวา จึงรีบปฏิบัติการดึงฟืนออกจากกองไฟ ด้วยการให้ “นายกฯอิ๊งค์” สั่งเลื่อนการพิจารณา ร่าง กฎหมายกาสิโนคอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน
จากนั้นก็ออกมาให้สัมภาษณ์แก้เกี้ยวว่า ถ้าโหวตก็ผ่าน เพียงแต่ไม่อยากเห็นความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
ตอนนี้ สถานะของร่างกฎหมายกาสิโน แค่ถูกเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน แต่ไม่ได้ถอนออกจากวาระ
ดังนั้น เมื่อเปิดสมัยประชุมครั้งหน้า ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ร่าง กม.กาสิโน จะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาทันทีเลยหรือไม่ และเมื่อถึงเวลานั้นกระแสต้านจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
การตีธงถอยรอบนี้ จะเป็นการ “ถอยชั่วคราว” หรือ “ถอยยาว” ขึ้นอยู่กับใจของทักษิณ