xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยงพัง เอาไม่อยู่ “ชายคนนั้น”สั่งถอยก่อน!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

เรียกว่ากำลังเกิดกระแส “ฮือต้าน” ร่างกฎหมายสถานประกอบการบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่แอบแฝงด้วย “บ่อนกาสิโน” อยู่ข้างใน จนถูกเรียกว่ากฎหมาย “อนุญาตให้เปิดบ่อน” เพราะเสียงคัดค้านกำลังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ แทบทุกวงการต่างประสานเสียงออกมาคัดค้าน จนทำให้ล่าสุดรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องออกมาแถลง “ถอยชั่วคราว” นั่นคือ จะยังไม่มีการพิจารณาในร่างกฎหมายดังกล่าว ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 เมษายน นี้ ให้เลื่อนออกไปก่อน

นั่นหมายความว่า กฎหมายฉบับนี้หากจะเดินหน้า ก็ต้องรอพิจารณาในสมัยประชุมหน้า คือราวต้นเดือนกรกฎาคม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่า ได้หารือร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และมีมติเห็นตรงกันให้เลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตหลายด้าน ทั้งภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหว การเยียวยาผู้ประสบภัย และกรณีสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งหาทางออกอย่างเร่งด่วน

“เรื่องนี้ไม่ใช่การซื้อเวลา แต่เป็นการจัดลำดับความสำคัญ” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงอยู่ ไม่ได้ถอนออก เพียงแต่ขอเวลาสื่อสารและทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจน โดยเฉพาะในประเด็นที่หลายฝ่ายเข้าใจว่าเป็นการเปิดทางให้กาสิโนถูกกฎหมายทั่วประเทศ

“เราไม่ได้ทำเพื่อกาสิโน แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่มีความบันเทิงหลากหลายสำหรับทุกเพศทุกวัย การให้ใบอนุญาตกาสิโนในพื้นที่นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด” นายกฯ ระบุ

อย่างไรก็ดี เธอยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กดดันให้พรรคร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว โดยย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังอยู่ครบ ไม่มีใครถูกขับออก และตนในฐานะผู้นำรัฐบาลต้องการให้ทุกฝ่าย “เห็นพ้องด้วยใจ ไม่ใช่แค่ตามมติ”

เมื่อถามย้ำว่า การชะลอพิจารณาในสภา คือการยอมถอยจากแรงต้านใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชน แต่ต้องดูบริบทและปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการก่อน เช่น เรื่องเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

“เรามองว่ากฎหมายนี้จะช่วยสร้างเม็ดเงิน กระตุ้นการท่องเที่ยว และการจ้างงาน แต่หากยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน รัฐบาลก็จะเร่งชี้แจงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดาของน.ส.แพทองธาร ที่ถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง โดยเฉพาะนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมไปถึงเรื่อง “เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ” ที่สนับสนุนให้ “เปิดบ่อน” ก็มาจาก “วิสัยทัศน์” ของเขา โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้กำชับไปยังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ให้ สส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ยกมือเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะมีการพิจารณาวาระแรก ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งหากพบว่าพรรคไหนไม่ยกมือเห็นด้วย จะให้ออกจากการร่วมรัฐบาลทันที

อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวทำให้น่าจับตาท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะเอาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา รวมไปถึงพรรคประชาชาติ ที่มีฐานเสียงเป็นกลุ่มมุสลิม ว่าพวกเขาจะโหวตต้านกระแสต่อต้านจากสังคมภายนอก หรือไม่ เพราะหากยังโหวตหนุนร่างกฎหมาย “เปิดบ่อนกาสิโน” ก็เท่ากับการฝืนกระแสทำลายฐานเสียงของตัวเอง หรือไม่

แต่ท่าทีล่าสุดจนทำให้สังเกตได้ว่า บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทย หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 8 เมษายน จนนำไปสู่การแถลงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในการ “ถอยชั่วคราว” โดยมี หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญร่วมอยู่ด้วย เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลต้องฟังทุกฝ่ายตามที่นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อสักครู่นี้ รัฐบาลไม่ได้จะฟังเฉพาะคนที่พูดแล้วเป็นไปในแนวทางเดียวกับรัฐบาลเท่านั้น แต่คนเห็นต่างก็ต้องฟังทั้งหมด เพราะเราเป็นรัฐบาลเลือกที่จะห่วงใย และให้ความสำคัญกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้

เขาได้บอกกับนายกฯว่า ร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มันผ่าน ครม.ไปแล้ว ก็ต้องถือว่าคือร่างของรัฐบาล มีความสำคัญ และเข้าสภาแล้ว ผ่านที่ประชุมวิปแล้ว แต่ปรากฏว่าตอนที่ผ่านการพิจารณา ยังไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว และมีฝ่ายค้านเสนอให้พิจารณาเรื่องการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งขณะนั้นฝ่ายรัฐบาล แม้แต่ตนเอง ก็ยืนยันแล้วว่าจะดูแลประชาชน ทั้งการบริหารสถานการณ์ และการเยียวยาประชาชน ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องเราให้ความสำคัญสูงสุด ฉะนั้น ร่างฉบับนี้ ก็น่าจะให้ผ่านเข้าไปสู่ญัตติการประชุมสภาได้ และเมื่อผ่านไปแล้วเราก็รับฟัง เพราะเราคิดว่ากรณีแผ่นดินไหวเราก็ทำงานอยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังมีเรื่องมาตรการภาษีจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาอีก เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่อวสำคัญ ทำให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นด้วยให้เลื่อนออกไปก่อน

“หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็เห็นด้วย เพราะต้องยอมรับว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และปากท้องประชาชน ที่สำคัญเป็นเรื่องของการส่งออกของไทย เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะไม่ให้เลื่อนก็จะถูกตีความได้ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ จึงมีความเห็นพ้องกัน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยชี้แจง

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากท่าทีที่เพิ่งเกิดขึ้นของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มี “อาการถอย” ยังไม่พิจารณา ร่าง กฎหมาย “บ่อนกาสิโน” ในวันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ โดยให้เลื่อนออกไปก่อน คาดว่าอาจนำกลับมาพิจารณาในสมัยประชุมหน้า ราวต้นเดือนกรกฎาคม หลังจากมีกระแสต่อต้านพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกรงว่าบานปลาย “เอาไม่อยู่” อย่างไรก็ดีความหมายก็คือ การถอยแบบนี้ ย่อมถูกมองว่า “ทักษิณสั่งถอย” นั่นแหละ เพราะกลัวว่าจะพังก่อนกำหนด!!



กำลังโหลดความคิดเห็น