รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม. รับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ส่งเสริมการให้บริการไฟฟ้าทั่วถึง ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ยกระดับการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน
วันนี้ (วันอังคารที่ 8 เมษายน 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. รับทราบรายงานประจำปีงบฯ 66 ของ คกก. กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ สนง. คกก. กำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ตามที่ กระทรวงพลังงาน เสนอ
โดยผลการดำเนินการที่สำคัญในปี 66 ได้แก่
ด้านการกำกับกิจการพลังงาน เช่น
1) ส่งเสริมการให้บริการไฟฟ้าทั่วถึง
- เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับโครงการขยายเขตไฟฟ้าไปยังพื้นที่เกาะ ซึ่งผ่านการรับฟังความเห็นบนเว็บไชต์ของ สนง.กกพ. แล้ว และ กกพ. ได้แจ้งหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน. กฟภ.และกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทาน ทร.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว
2) ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
- รับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับขยะอุดสาหกรรม โดยมีผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมากที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 13 ราย ปริมาณเสนอขายไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ครบตามเป้าหมาย ทั้งนี้ มีแผนการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในปี 69
- โครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับภาคประชาชม เพื่อให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เองเป็นหลัก โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 66 พบว่า กลุ่มบ้านอยู่อาศัยมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในปี 65 - 66 แล้ว จำนวน 4,789 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 48,134 กิโลวัตต์ โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 4,829 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 26,467 กิโลวัตต์
3) ยกระดับการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน
- คืนเงินประกันใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า โดยกำกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการ ทร. ให้คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันแล้ว 4.66 ล้านราย วงเงิน 17,114 ลบ. และได้คืนเงินประกันแล้วจำนวน 8.45 ล้านราย วงเงิน 16,893 ลบ.
ด้านการบริหารจัดการกองทุนฯ เช่น
1) พัฒนาและฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า
- อนุมัติจัดสรรงบฯ เพื่อดำเนินโครงการชุมชมในพื้นที่ประกาศ (พื้นที่ที่ สกพ. ประกาศกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีสิทธิได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ) จำนวน 8,472 โครงการ วงเงิน 4,843.07 ลบ. ในด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน
2) ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีในการประกอบกิจการไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
- อนุมัติจัดสรรงบฯ เพื่อการศึกษาวิจัย จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 6.24 ลบ.ประกอบด้วย โครงการอุปกรณ์แชร์พลังงานสำหรับระบบไฟฟ้าที่ใช้พลังงานหมุนเวียนแบบผสมและโครงการศึกษาและเสนอร่างหลักเกณฑ์การนำน้ำทั้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพไปใช้ประโยชน์โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแผนการดำเนินงานที่สำคัญในปี 67 ได้แก่ ด้านแผนการดำเนินงานของ สนง.กกพ. เช่น 1) การปรับปรุงและพัฒนากฎระเบียบเพื่อการกำกับและส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงานตามนโยบายภาครัฐ 2) ติดตามการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโครงการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FiT 3) โครงการตรวจการประเมินคุณภาพการให้บริการของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า 4) พัฒนาระบบบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนผ่านระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ด้านการบริหารจัดการกองทุนฯ เช่น 1) จัดสรรงบฯ เพื่อการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และมุ้งเน้นการปรับปรุงกระบวนการและยกระดับการดำเนินงานของกองทุนฯ 2) มีแผนที่จะเปิดรับข้อเสนอขอรับการจัดสรรทุนเพื่อส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีในการประกอบกิจการไฟฟ้า 3) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนฯ (สำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเยียวยาบรรเทาความเสียหายในเบื้องต้นจากผลกระทบที่มีสาเหตุมาจากโรงไฟฟ้า)
ทั้งนี้ ครม. มีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของ คกก. กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ สนง. คกก. กำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ตามที่ กระทรวงพลังงาน เสนอ