นายกฯ ดึง 4 สถาบันวิศวะ จับมือกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมทำโมเดลเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ขีดเส้น 90 วัน ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน พร้อมฟันระหว่างทางถ้าพบทำผิดกฎหมาย สั่งตรวจตึกทั้งรัฐและเอกชนใหม่ทั้งหมดให้พร้อมรับแผ่นดินไหว ลั่นไม่มีใครวิ่งเต้นย้ายรัฐมนตรีได้
วันนี้(8 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มนานกว่า 1 ชั่วโมงว่า การประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปหลายข้อ เรื่องแรกขอให้ความมั่นใจกับประชาชนก่อนว่า กฎหมายที่ออกมาใช้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร สร้างตึก เพื่อให้สามารถรองรับ กับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวเท่าเดิม จะไม่ทำให้ตึกถล่มมากขึ้น แต่ทุกตึกต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดด้วย และเท่าที่เห็นยังไม่เห็นว่ามีตึกไหนที่ได้รับความเสียหายมาก มีปัญหาบ้างเช่นการกระเทาะ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ส่วนตึก สตง.ที่ถล่มเป็นตึกเดียวที่เราเอามาดู ในข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น จากการพูดคุยพบข้อสงสัยหลายเรื่อง ที่เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น และในกระบวนการก่อสร้าง แต่ประเด็นคือต้องใช้เวลาในการเคลียร์ไซส์งานที่เกิดเหตุ ซึ่งได้รับรายงานว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นับจากวันที่เกิดเหตุเพื่อเคลียร์สถานที่ ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะใช้ 4 สถาบัน เข้ามาศึกษา บวกกับกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยแต่ละคนจะจัดทำโมเดลแยกกันเพื่อจำลอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของตึกที่ถล่ม เพื่อจะได้ทราบสาเหตุว่ามีอะไรที่ทำให้ถล่ม และการที่จะวิเคราะห์ทำโมเดลของแต่ละสถาบัน จะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ตนจึงบอกว่าขอให้ทำเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องของรายละเอียดว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ตึกถล่ม ไม่สามารถสรุป หรือชี้ได้เลยในวันนี้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หนึ่ง หัวข้อทำให้ถล่ม เพราะสาเหตุประกอบจากหลายหัวข้อ จึงต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้การใช้ 4 สถาบันเพื่อให้เกิดความร่วมมือ มีความโปร่งใส ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เราใช้คณะวิศวะจาก 4 สถาบัน เพื่อให้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเกิดความมั่นใจได้
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าการก่อสร้างตึกทุกตึกมีกฎหมายควบคุม ไม่อยากให้ประชาชนหวาดกลัวและจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวไม่มีตึกอื่นถล่ม มีแค่ตึกสตง.ตึกเดียว ส่วนข้อสงสัยที่ได้รับมา ขอรอตรวจสอบให้ชัดและเมื่อเคลียร์ไซต์งานภายใน 1 เดือน ก็จะเกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังให้ทบทวนกระบวนการตรวจสอบ ตึกอาคาร ที่ก่อสร้างใหม่ทั้งหมด ทั้งของรัฐและเอกชน ยกตัวอย่างที่ตนเคยสร้างตึกเอกชนมีข้อที่ต้องรับรองมาก จึงต้องมาดูตรงนี้ว่าการรับรองตรงนั้นปลอดภัย และใช่กระบวนการที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ขณะที่ระบบราชการก็ต้องดูว่าจะต้องเพิ่มอะไรเข้าไปหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือเอกชนต้องเพิ่มเรื่องของแผ่นดินไหวเข้าไป การทบทวนกระบวนการดำเนินงานจะทำให้เกิดความคล่องตัวขึ้น และตรงประเด็น ตัดส่วนที่ไม่เกิดประโยชน์ และให้ดูว่าจะเพิ่มมาตรการอย่างไรเพื่อให้ตึกที่สร้างในอนาคตไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถาม ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณภาพเหล็กที่นำมาใช้ก่อสร้างตึกดังกล่าว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องวัสดุมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน โดยทั้ง 4 สถาบันบวกกับกรมโยธาธิการจะมาช่วยกัน เอาข้อมูลทุกอย่างมาประกอบว่าสิ่งใดที่ทำให้เป็นปัจจัยเกิดเหตุการณ์นี้ ส่วนรายละเอียดในเรื่องของโครงสร้างจะให้คณะกรรมการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพ ได้ตอบคำถามขอย้ำว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นข้อสงสัยทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
เมื่อถามว่านายกระบุว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นข้อสงสัยแสดงว่าผลสอบเสร็จแล้วจะต้องมีผู้รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอนนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แน่นอน และที่จริงแล้วให้ดูว่าระหว่างทาง กว่าจะได้โมเดลที่แต่ละสถาบันไปจำลองภายใน 90 วัน ถ้าพบว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วผิดกฎหมาย ผิดมาตรฐานผิดกระบวนการถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย จะต้องทำควบคู่ไปกับการตรวจสอบสาเหตุ ซึ่งต้องรอเวลา 90 วัน หากเจอขั้นตอนกระบวนการที่ผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย ถ้าเจอสามารถดำเนินคดีได้เลย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าบริษัทเหล็กขู่ย้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่เข้าไปตรวจสอบ ลงลึกถึงสาเหตุ และแตะต้องธุรกิจของโรงงาน นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่าใครจะย้ายรัฐมนตรีถ้าบริษัทจะย้ายรัฐมนตรี อาจจะไม่ถูกต้องในเรื่องของกฎหมายและอำนาจ
เมื่อถามย้ำว่าบริษัทอาจจะไปวิ่งเต้นกับรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครโอเคกับเรื่องวิ่งเต้นอยู่แล้ว และไม่มีใครสนับสนุน เมื่อถามว่าได้คุยกับบริษัทอิตาเลียนไทย และ บริษัทไชน่า เรวเวล ที่เป็นบริษัท ร่วมค้า บ้างหรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าโดยส่วนตัวยังไม่ได้คุย แต่ถ้าไปข้องเกี่ยวกับกระบวนการก็ต้องคุย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย (เฟซบุ๊ก และ X) ระบุว่า ประชุมติดตามการสืบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ตึกถล่ม และต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดค่ะ
ครบ 7 วันหลังประชุมติดตามขอให้สืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งท่านอนุทิน รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามคำสั่ง
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ครอบครัวผู้สูญเสีย สภาพจิตใจของพี่น้องประชาชน และความเชื่อมั่นต่อการทำงานภาครัฐ มาตรการที่ทำทุกอย่างจากนี้จึงต้องเด็ดขาด ตั้งแต่ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา ผู้ตรวจรับอาคาร บริษัทที่ผลิตวัสดุก่อสร้าง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่หากพบการกระทำผิด จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
การประชุมวันนี้ทางคณะกรรมการฯ ได้เข้ามารายงานการตรวจสอบ พบหลักฐานแสดงถึงข้อสงสัยหลายข้อ ซึ่งจะต้องใช้เวลาตรวจสอบต่อไป โดยทางคณะกรรมการฯ จะร่วมกับ 4 สถาบันการศึกษาคณะจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ กรมโยธาธิการและผังเมือง ทำโมเดลเพื่อตรวจสอบการถล่มของตึกอย่างชัดเจนใน 90 วัน โดยระหว่างนี้ดิฉันขอให้ทบทวนกระบวนการตรวจสอบตึกทั้งเอกชนและราชการ เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อผู้ใช้อาคารเองและความมั่นใจต่อพี่น้องประชาชน
และดิฉันอยากยืนยันกับพี่น้องประชาชนมั่นใจค่ะว่า ตึกสูงในวันนี้ มีความปลอดภัย มั่นคง แข็งแรง และผ่านมาตรฐานอาคารที่รองรับภัยพิบัติ
กระบวนการทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน แต่หมายถึงบรรทัดฐานและมาตรฐานการควบคุมการก่อสร้างอาคารในประเทศไทยค่ะ