"พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์" แกนนำกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน จี้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์ ยันมี สว.มากกว่า 100 คนที่คัดค้าน พร้อมขู่หากโหวตรับหลักการ เตรียมยื่นสอบจริยธรรม
วันนี้(8 เม.ย.) ที่รัฐสภา สว.กลุ่มสีน้ำเงิน นำโดยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) พร้อมคณะสว.กลุ่มหนึ่ง ร่วมแถลงคัดค้านต่อกรณีที่สภาฯ เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์)ในวันที่ 9 เม.ย. พร้อมเรียกร้องให้ถอนร่างกฎหมายออกจากการพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ
โดยนายพิสิษฐ์ แถลงว่า มี สว.เกิน 100 คน มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวที่กำหนดให้มีกาสิโน ร่วมกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงและขอคัดค้าน ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการออกเสียงประชามติต่อร่างพ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติกำหนดให้ต้องทำคือการดำเนินการสิ่งที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง และประโยชน์โดยรวมของประเทศ ทั้งนี้หากไม่ทำอาจเข้าข่ายทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 172 รวมถึง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มาตรา 123/1 หากพบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดมิชอบ นอกจากนั้นในเหตุผลทางจริยธรรมถือว่าการเปิดกาสิโนขัดต่อหลักศีลธรรมของศาสนา รวมถึงก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
“กาสิโนไม่ใช่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงไม่ใช่การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่แท้จริง เนื่องจากปัจจุบันมีคนนิยมเที่ยวในประเทศไทยเพราะมีจุดเด่นเรื่องวัฒนธรรม นอกจากนั้นแล้วกาสิโนอาจทำให้เกิดอาชากรรมข้ามชาติ และเปิดช่องให้เกิดการฟอกเงิน เกิดทุจริตคอร์รัปชั่น” นายพิสิษฐ์ แถลง
นายพิสิษฐ์ กล่าวด้วยว่ารัฐบาลอาจจะทำขอความเห็นตามเว้ปไซต์ law.go.th. อ้างถึงผลการรับฟังความคิดเห็นว่ามีประชาชนเห็นด้วย 87% ผ่านเว็ปไซต์นั้น ตนได้ตรวจสอบและได้เข้าเว็ปไซต์ดังกล่าว พบว่า ตนเพียงคนเดียวสามารถแสดงความเห็นกี่ครั้งก็ได้ เพราะไม่มีการยืนยันตัวตน ดังนั้นจึงถือว่าเป็นเว็ปไซต์ดังกล่าวจะอ้างว่าเป็นของรัฐบาลไม่ได้ เพราะหลอกลวงไม่น่าเชื่อถือ
“หยุดการเสนอและถอนจากระเบียบวาระ หากเดินหน้าต้องทำประชามติและทำเวทีรับฟังความเห็นให้รอบด้าน ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่รวมกาสิโน แม้อ้างผลประโยชน์ประเทศ แต่แฝงด้วยความเสี่ยงรอบด้าน รวมถึงจริยธรรม ขอให้เคารพเสียงประชาชนหยุดกระบวนการผลักดันร่างกฎหมายก่อนที่ประเทศไทยจะเกิดความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ และหาก สภาฯ โหวตรับร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว สว.จะขอดำเนินการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรม” นายพิสิษฐ์ กล่าว