“สนธิญา” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน วินิจฉัยร่างกฎหมายคาสิโน ขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา พร้อมส่งศาล รธน.สั่งระงับ นายกฯ-ครม.สิ้นสภาพ ลุยงานเพื่อประโยชน์บางคน ไม่เห็นหัวประชาชน
วันนี้ (4 เม.ย.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหว เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัย กรณีรัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดของเรื่องนี้ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าสู่สภาแล้วนั้น ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหลายมาตรา และส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินัจและมีคำสั่งระงับ กฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีสิ้นสภาพตามไปด้วย โดยภายใน 60 วัน หากผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยกับตน หรือยังไม่มีการวินิจฉัย ตนก็จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยตรงต่อไป
นายสนธิญา กล่าวว่า ที่บอกว่าขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรานั้น ประเด็นแรก ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรก 57 (1) กรณีจัดทำประชาพิจารณาหรือรับฟังความคิดเห็น ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังไม่มีความแน่นอนเลยว่าจะไปเปิดดำเนินการที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ งบประมาณ มีแต่ประธานกรรมการที่จะพิจารณาเรื่องนี้ คือ นายรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม ควรเป็นคนในภาคราชการ หรือเอกชน หรือบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง และตามมาตรา 258 การปฏิรูปการเมือง ซึ่งนโยบายในการหาเสียงของรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยพูดว่าจะมีนโยบายนี้ แต่กลับมาทำเรื่องนี้ โดยไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต้องมีการศึกษา ไม่มีการแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นายสนธิญา ยังเห็นว่า ยังขัดมาตรา 250 หมวด 16 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทยเช่นกัน และมาตรา 257 (1) ว่า ด้วยการพัฒนาประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจน ว่า การพัฒนาให้อิงหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในกรณีการทำสถานบันเทิงครบวงจรนั้น เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงประการหนึ่ง ประการใดหรือไม่ มาตรา 257 (2) การขจัดความเหลื่อมล้ำ ถามว่า บ่อน หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขจัดความเหลื่อมล้ำตรงไหน มีการจำกัดคนเข้า คนไทยได้ประโยชน์อะไร และใน (3) คือประชาชนต้องมีส่วนร่วมตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งต้องถามกลับว่า ขณะนี้ประชาชนมีส่วนร่วมมากแค่ไหนกับโครงการนี้ มีการทำประชามติ ประชาพิจารณ์หรือไม่
นอกจากนี้ ยังขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (1) เรื่องจริยธรรม คุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต และกระบวนการจัดทำนั้นเป็นไปขัดหลักจริยธรรม คุณธรรม แน่นอนว่าประเทศไทยนับคือศาสนาพุทธ ประชาชนส่วนมากไม่ส่งเสริมให้เปิดทำคาสิโน ไม่ว่าจะเป็น10 เปอร์เซ็นต์ หรือกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม สิ่งเหล่านี้ ถ้าเรารับฟังความเห็นจากประชาชนในห้วงที่ผ่านๆ มา จะเห็นว่า ไม่ต่ำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่คัดค้านเรื่องนี้
“สส.ที่ยกมือให้ผ่านสภา เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมยื่นเรื่องนี้ แล้วผู้ตรวจการวินิจฉัยส่งศาลรัฐธรรมนูญ หรือตนยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง วันนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องนี้ ผมจะมีข้อพิเศษ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่นายกฯ ยัน สส. ที่ยกมือเห็นด้วยทั้งหมด เพราะผมถือว่า เป็นกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารร่วมมือกัน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด” นายสนธิญา กล่าว
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ตนคัดค้านมาตลอด แม้จะบอกว่ามีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม ทุกวันนี้ประเทศไทยเลอะเทอะ ไปหมดแล้ว แล้วยังจะเพิ่มเรื่องพวกนี้เข้าไปอีก ทุกวันนี้บ่อนเถื่อน หวยเถื่อนยังปราบไม่ได้ ในหลายเรื่องที่เป็นสีเทาคุณปราบปรามได้หรือไม่ หรือจะเพิ่มความเลวร้ายให้สังคมไทย ลูกหลานไทยต่อไปในอนาคต และผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ บุคคล ไม่สนับสนุนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะไทยมีธรรมชาติ วัฒนธรรม ที่เสริมการท่องเทียวได้โดยไม่ต้องพึ่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การมีคาสิโนมีคนได้ผลประโยชน์ไม่กี่คน ซึ่งคุ้มกับการลงทุนหรือไม่ ความเสียหายที่ตามมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามว่า กระบวนการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลมองว่าเป็นไปตามปกติหรือ มีการเร่งรัดเกินไปหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า การผลักดันเป็นไปตามกระบวนการปกติ แต่เร่งรัดผิดปกติ ตนคิดว่ารัฐบาลสมควรส่งเรื่องนี้ถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการกระทำตาม พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่วันนี้ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารร่วมมือกันส่งเรื่องเข้าไป ทั้งๆ ที่ยังมีเรื่องที่ประชาชนยังตื่นตระหนกอยู่
“ผมเข้าใจว่าเป็นการเร่งรีบที่หวังประโยชน์ของคนกล่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเอาประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศเป็นที่ตั้งกันแน่ ซึ่งประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะเป็นคนพิจารณาวินิจฉัย แต่ส่วนตัวผม ผมไม่เห็นด้วยด้วยประการทั้งปวง ที่สำคัญ พ.ร.บ.นี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหลายมาตรา รัฐบาลต้องตอบให้ได้ และฝ่ายนิติบัญญัติต้องตอบคำถามผมให้ได้”