วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องประชุมพรรคกล้าธรรม (กธ.) นายสมพงษ์ ภูพานเพชร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด นำตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เข้าพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมยื่นหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร
โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากสหกรณ์สมาชิกหลายแหล่ง ว่า มีน้ำนมดิบสะสมค้างถัง เพราะโรงงานรับซื้อได้ไม่หมด เสี่ยงต่อการสูญเสียหลาย 100 ตันต่อวัน จากสาเหตุที่เกษตรกรมีประสิทธิภาพจัดการฟาร์มนมดิบเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ประกอบกับการค้าเสรีนมผงที่มีต้นทุนถูกกว่านมดิบ และมีอายุนาน 2 ปี มากกว่านมดิบที่มีอายุเพียง 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นผลให้อุตสาหกรรมซื้อนมดิบจากเกษตรกรไทยได้น้อยลง อีกทั้งผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ถูกกว่าภาคสหกรณ์ และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ที่ต้องรับนมดิบที่ต้นทุนผลิตภัณฑ์นมสูงกว่า ทำให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมได้น้อยลงจึงมีสต็อคสะสมมาก ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อปัจจัยการผลิตและโกดังสต๊อก รวมถึงตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมน้อยลง
“ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 67 ชุมนุมสหกรณ์โคนแห่งประเทศไทย จำกัด ได้ประสานกับกระทรวงเกษตรสหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานมดิบที่มีส่วนเกินมากกว่า 5,000 ตันได้แล้ว แต่ อ.ส.ค.สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมได้น้อยจากสาเหตุข้างต้น ทำให้มีสต็อคเพิ่มขึ้น ขาดเงินเงินหมุนเวียนเป็นต้น ทำให้ภาคสหกรณ์แบกภาระสต๊อก ทั้งผลิตภัณฑ์นม ทั้งรับผิดชอบนมดิบ ทำให้เดือน เม.ย. 68 มีสหกรณ์สมาชิกหลายแห่งมีนมสะสมค้างถัง จำหน่ายไม่ได้ รวมกัน 546 ตัน/วัน ประกอบกับมีการปรับปรุงหลักการมติคณะรัฐมนตรี เรื่องนมโรงเรียน ทำให้นมดิบขายได้ยากมากขึ้น”
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า เกษตรกรจึงมาขอความช่วยเหลือจาก ร.อ.ธรรมนัส เพื่อให้ประสานหาแหล่งเงินทุนและตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม หรือเงินอุดหนุนต่างๆ ซื้อผลิตภัณฑ์นมเพื่อสวัสดิกการสังคมให้สหกรณ์และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สามารถรับซื้อนมดิบเป็นการฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทุกพื้นที่ และรับปากจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยเร็ว