“ภูมิธรรม” ย้ำ ไม่ยื้อสอบปมตึก สตง.ถล่ม ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนเอาผิด ด้านกองทัพพร้อมเป็น Backup ให้ประชาชนที่ตกค้างจากการเดินทาง
วันนี้ (2 เม.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงการให้การช่วยเหลือผู้ติดในซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่ม ว่า ในบางจุดอาจจะต้องหยุดไว้เพื่อตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อน โดยผู้ว่าฯ กทม.ได้ไต่สวนและได้ประสานทุกส่วนร่วมกันทุกฝ่าย ขณะที่กองทัพได้ลงพื้นที่ไปสำรวจประชาชนในจุดใหญ่ที่ตกค้างเรื่องการเดินทาง โดยจุดใหญ่จะเป็นที่ถนนสุขุมวิท และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กองทัพวางแผนว่าจะจัดรถเพื่อให้บริการประชาชน โดยจะไม่วิ่งทับเส้นทางของ ขสมก.แต่จะขนคนจากจุดใหญ่กระจายไปยังจุดย่อย แยกจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังพระโขนง อนุสาวรีย์ชัยฯ ไปดอนเมือง อนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังท่าน้ำนนทบุรี และจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังท่าพระจันทร์ ที่จะข้ามไปฝั่งธน และยังมีอีก 1 สายที่จะข้ามไปยังฝั่งธนบุรี โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทหารคอยให้การสนับสนุน
นอกจากนี้ ได้เครื่องตรวจจับสัญญาณ นำเข้าไปใช้ในสถานที่เกิดเหตุและเพิ่งนำกลับออกมาหลังจากพบสัญญาณชีพเริ่มเบาบาง ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัด ได้สั่งให้หน่วยทหารทั้งหมด เฝ้าดูแลช่วยเหลือและสนับสนุนตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้องขอ โดยส่วนใหญ่จะเข้าไปดูสถานศึกษาและโรงพยาบาล
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า เหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สตง.แห่งใหม่ จะมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยพิบัติของ กทม.เป็นประธานในการทำงานร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการตรวจสอบไปยังบริษัทที่รับเป็นนอมินีด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตรวจสอบทั้งหมดทุกอย่างที่เป็นเงื่อนไขจะทำให้ทราบว่าเป็นปัญหาเพราะอะไร โดยประสานกับทุกส่วน ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเชิงลึกขึ้น โดยจะดำเนินการต่อจากการตรวจสอบในครั้งแรกที่พบความผิดปกติ โดยจะเข้าไปตรวจพิสูจน์ทราบในจุดที่เป็นปัญหาทั้งหมด รวมถึงทั้งในโรงงาน
ส่วนตำรวจก็ทำคดีร่วมกันไป แต่ทำได้เฉพาะในส่วนของภายนอก เพราะยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจภายในได้ จนกว่าจะมีการอนุญาตให้เข้าไปภายในพื้นที่ โดยตำรวจนครบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ประชาชนและการจราจรโดยรอบ และกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทจีนที่เป็นคู่สัญญาได้รับงานของหน่วยงานราชการ 11 แห่ง จะต้องรื้อสัญญามาดูด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ขอลงในรายละเอียด ย้ำว่า เวลานี้ทุกฝ่ายกำลังทำ ในทุกเรื่องที่คิดว่าเกี่ยวพันเป็นปัญหา ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการอย่างชัดเจนว่าต้องทำเรื่องนี้ให้ปรากฏอย่างชัดเจน ใครผิดก็ดำเนินการตามกฎหมายให้เต็มที่ โดยต้องทำอย่างรวดเร็วไม่ทิ้งเวลา และย้ำให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุเกิดใกล้ครบ 1 สัปดาห์ ได้เห็นความคืบหน้าถึงสาเหตุหรือขั้นตอนการปฏิบัติต่อจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้วิทยาศาสตร์ โดยละเอียดรอบคอบ ไม่ใช่เป็นการยื้อเวลา ถ้าจะสรุปต้องชัดเจนและเอาผิดได้ คิดว่าเวลานี้ทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่