“บิ๊กเกรียง” นำทีม สว.ซ้อมอพยพหนีแผ่นดินไหว ขนอุปกรณ์ป้องกัน-เรือ-รถพยาบาล-ตำรวจน้ำ พร้อม หวั่นเกิดอาฟเตอร์ช็อก เตรียมส่งตัวแนวร่วมเป็น กก.ตรวจสอบอาคารรัฐสภา
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ได้การประชุมวุฒิสภา โดยมี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนหนึ่ง เป็นประธานการประชุม ภายหลังจากที่เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อน ก่อนเข้าระเบียบวาระทั่วไป พล.อ.เกรียงไกร ได้แจ้งสมาชิกทำการซักซ้อมเสมือนจริงการอพยพกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยมีการประกาศว่า “ขณะนี้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขอให้สมาชิกและข้าราชการทุกคนออกไปรวมตัวกันที่บริเวณจุดรวมพล” โดยก่อนที่ สว. และข้าราชการจะวิ่งออกจากตึกไปรวมตัวกันที่จุดรวมพลบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา สมาชิกแต่ละคนได้สวมหมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง นกหวีด บางคนที่ถือไฟฉายลงมาด้วย และได้มีการสอบถามว่าเพื่อนสมาชิกแต่ละคนมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเรือไว้สำหรับพาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียงไว้ด้วย
หลังจากใช้เวลาในการซักซ้อมจนเสร็จสิ้นประมาณ 10 นาที พล.อ.เกรียงไกร ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราซักซ้อมโดยมีอุปกรณ์พร้อมที่เตรียมไว้สำหรับสมาชิกทุกคน เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม สมาชิกได้มีการหารือไว้ เพราะอาจมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นได้ในภายหลัง เราต้องไม่ประมาท โดยภายหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนแล้วก็รีบอพยพมาที่จุดรวมพล ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่หากเป็นในสถานการณ์จริง ตนคิดว่า ทุกอย่างเป็นไปตามนี้อย่างอัตโนมัติและต้องรวดเร็วกว่านี้ แต่ทุกอย่างมีแบบแผนในการอพยพ
เมื่อถามว่า ก่อนจะมีการอพยพลงมาต้องมีการหลบใต้โต๊ะก่อนหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนคิดว่าจะชุลมุน แม้จะหลบใต้โต๊ะอย่างไรก็ต้องออกมาจากอาคารสูงให้เร็วที่สุด ส่วนไฟบริเวณบันไดหนีไฟที่ดับเป็นบางช่วงนั้น ทุกภาคส่วนต้องมีการตรวจสอบ แต่จากที่ได้มีการตรวจสอบแล้ว เราจึงได้มีการแจกไฟฉาย เพราะต้องคาดการณ์ว่าระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จะไม่สามารถใช้การได้ รวมถึงไฟฟ้าอาจดับ และนกหวีดก็สามารถใช้เรียกหากันได้
ส่วนที่ประตูทางออกฉุกเฉินบางจุดชำรุด ก็ต้องมีการแก้ไขให้สมบูรณ์ และเมื่อซักซ้อมแล้วเห็นจุดบกพร่องตรงไหน ก็จะต้องมีการไปปรับแก้ ให้กลับไปสู่สภาพที่สามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเกิดเหตุ
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการตั้งคณะกรรมการระหว่างสองสภาเพื่อตรวจสอบอาคารรัฐสภาอย่างละเอียดในวันที่ 3 เมษายนนี้ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เป็นโครงสร้างที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งอาคารรัฐสภาอยู่ในความรับผิดชอบของฝั่งสภาผู้แทนราษฎร โดยทางวุฒิสมาชิกต้องจัดคนเข้าไปร่วมด้วยเพื่อตรวจสอบอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องโครงสร้างหรือระบบสาธารณูปโภค โดยการซ้อมในวันนี้ถือเป็นการซักซ้อมเสมือนจริงเต็มรูปแบบ ยืนยันว่า อุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐาน
ต่อมา พล.อ.เกรียงไกร ได้เดินไปที่ท่าน้ำเพื่อขอบคุณตำรวจน้ำที่มาสแตนด์บายรอ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การขนย้ายคนไปทางน้ำที่จะเคลื่อนย้ายคนทางน้ำได้จริงหรือไม่ พล.อ.เกรียง กล่าวว่า สามารถขนย้ายได้ แม้จะมีคลื่น เพราะเรือมีจังหวะของคลื่นอยู่แล้ว ซึ่งทางตำรวจน้ำก็ได้มีการยืนยันแล้วว่าสามารถ ขนย้ายทางน้ำได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ เรื่องการขนย้ายคนทางน้ำจะเน้นคนผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ไปยังโรงพยาบาลวชิระหรือโรงพยาบาลใกล้เคียง เพราะหากผู้ป่วยเดินทางทางรถยนต์ในขณะที่เกิดแผ่นดินไหว รถก็จะติดเพราะทุกคนก็ต่างกันต้องการจะออกจากพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถขนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลได้ทันการใช้เรือจึงเป็นทางออกที่เร็วที่สุด