xs
xsm
sm
md
lg

เกิดเหตุที“สุริยะ”ควัก"สมุดพก" ขู่ผู้รับเหมาที! แบบนี้จะเอาจริงกี่โมง!? ** เดือดแน่!! ศึกพ่อตา-ลูกเขย ชิงเก้าอี้ซ่อม สส.เมืองคอน 3 พรรคร่วม ไม่มีใครยอมใคร!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - ชินวรณ์ บุณยเกียรติ
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ เกิดเหตุที“สุริยะ”ควัก"สมุดพก" ขู่ผู้รับเหมาที! แบบนี้จะเอาจริงกี่โมง!?

เหตุแผ่นดินไหวยังทำให้หลายๆคนผวามาจนถึงวันทำงานวันแรกของสัปดาห์นี้ มีอาคารหลายแห่งที่ผู้คนแห่แหนกันลงจากตึก เพราะรู้สึกถึงความสั่นไหวของอาคาร

แน่นอนว่า นั่นเป็นอาการอ่อนไหวที่อยู่กับความรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” ยิ่งกับหน่วยงานราชการ หลังอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม ยิ่งทำให้ข้าราชการหน่วยงานอื่นๆ กระทั่งศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ยังหวาดหวั่น

ฟังว่า มีหน่วยงานราชการหลายแห่งประกาศให้ข้าราชการเวิร์กฟอร์มโฮม เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ

แต่ก็มีบางหน่วยงานที่เห็นตัวอย่างตึกสตง.แล้วคิดปิดฟ้าด้วยฝ่ามือเพราะกลัวถูกขุดคุ้ยเรื่องทุจริต

“สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า อาคารหน่วยงานของรัฐ จำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่มักจะไม่อยากให้เป็นข่าว จึงปกปิดข้อมูลต่อสื่อมวลชน ถึงขั้นการออกคำสั่งไม่ให้ข้าราชการ พนักงาน เผยแพร่ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น ถือเป็นความผิดวินัย หากขัดคำสั่งดังกล่าว

1. คงเกรงความตื่นตระหนก และการเสียภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นที่มีต่อหน่วยงาน

2. กลัวการขุดคุ้ยต่อ ถึงการทุจริตหรือการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

ขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยราชการ และทุกหน่วยงานของรัฐ เปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ หากท่านเห็นแก่ความปลอดภัยของผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชนที่มาติดต่อราชการ

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
งานนี้จะเข้าหน่วยงานไหนต่อจากสตง. ก็ต้องติดตามกันต่อไป

นอกจากคอนโดสูง -ตึกระฟ้า และอาคารสำนักงานของบรรดาสถานที่ราชการแล้ว โครงสร้างพื้นฐานที่คนกรุงต้องใช้บริการก็เป็นเช่นเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องเร่งตรวจสอบเพื่อยืนยันความปลอดภัยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น

หากจะพูดถึงเรื่องโครงสร้างคมนาคม ก็ต้องนึกถึง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม

หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ฟังว่าได้สั่งการปลัดกระทรวงคมนาคม ให้ประสานหัวหน้าหน่วยงานราชการที่ขึ้นกับกระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ตรวจสอบประเด็นเรื่องความปลอดภัยโดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (1 เม.ย.) จะรายงานให้ที่ประชุม ครม.ทราบ

จุดที่คนสนใจที่สุดก็คือ “บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)” หรือ “ไอทีดี” ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุคานโครงการทางพิเศษพระราม 3 ถล่ม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และเป็นผู้รับเหมาร่วมกับบริษัทจีนก่อสร้างอาคารสตง. ที่ถล่ม จะต้องถูกแบล็กลิสต์ หรือไม่ เพราะเกิดเหตุซ้ำซาก!!

“สุริยะ”บอกว่าเรื่องแบล็กลิสต์กระทรวงคมนาคมก็ห่วงใย แต่จะทบทวนเรื่อง “สมุดพก” ก่อน โดยสัญญาในปัจจุบันกรณีผู้รับเหมาทำผิดสัญญา เช่น งานล่าช้า จะถูกปรับเท่าไหร่ แต่ไม่มีเรื่องของความปลอดภัยไว้เลย

ฉะนั้นสัญญาจากนี้ต่อไปได้คุยกับกรมบัญชีกลางแล้ว ถ้าเกิดงานในสัญญานั้นๆ เกิดการบาดเจ็บ หรือทำให้มีผู้เสียชีวิต จะถูกหักกี่คะแนน ถ้าถูกหักจนถึงเกณฑ์ที่ว่าจะถูกแบล็กลิสต์ ซึ่งจะเริ่มใช้กับสัญญาใหม่ๆ การเซ็นสัญญาจะมีการระบุในเรื่องของความปลอดภัยเข้าไปด้วย

ถามว่า ตึก สตง. ที่ถล่ม ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่ระบุ ใช่หรือไม่ “สุริยะ” กล่าวว่า ถ้าพูดกันตามหลัก ตัวนี้ยังไม่ได้ออกมา แต่เรื่องนี้จะพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ?

เป็นอันว่า เกิดเหตุสลดโดยผู้รับเหมาที “สุริยะ”ก็ควัก"สมุดพก" ออกมาขู่ทุกที! แบบนี้จะเอาจริงกี่โมง !?

ไสว เลื่องสีนิล
++ เดือดแน่!! ศึกพ่อตา-ลูกเขย ชิงเก้าอี้ซ่อม สส.เมืองคอน 3 พรรคร่วม ไม่มีใครยอมใคร!

ผ่านไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการเลือกตั้งซ่อม สส.บึงกาฬ เขต 2 แทน “สุวรรณา กุมภิโร” จากพรรคภูมิใจไทย ที่จัดมหรสพ ถูกศาลตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี โดยมีผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ “อรอุมา บุญศิริ” ภรรยาของ “สุวรรณา” ซึ่งเป็นคนของบ้านใหญ่ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย ลงมารักษาเก้าอี้นี้ต่อ

บรรยากาศการเลือกตั้งไม่ได้คึกคักอะไร เพราะ “อรอุมา” ต้องสู้กับตัวเอง คือต้องได้รับคะแนนเสียงจากประชาชน มากกว่าเสียง “โหวตโน” ก็ใช้ได้แล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหา เพราะได้มา 46,167 คะแนน ส่วนโหวตโนมีแค่ 8,779 คะแนน

แต่การเลือกตั้งซ่อมที่ เขต 8 นครศรีธรรมราช แทน “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” จากพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกศาลฎีกาตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี จากเรื่องซื้อเสียง ซึ่งจะมีการเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 2 - 6 เม.ย. แล้วไปหย่อนบัตรกันวันที่ 27 เม.ย.นี้
แน่นอนว่า พรรคภูมิใจไทย ต้องลงรักษาเก้าอี้ตัวนี้แบบหวังผลอยู่แล้ว เพราะเพิ่งเจาะพื้นที่เมืองคอนได้สำเร็จ หากพลาดไปก็จะส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ กำลังใจ และความแข็งแกร่งของพรรคในภาคใต้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่นี้มายาวนาน ก่อนจะพลาดท่าให้กับ “มุกดาวรรณ” ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ขณะที่พรรคกล้าธรรม ที่มี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ก็กำลังต้องการแสดงศักยภาพในการขยายพื้นที่ลงไปภาคใต้ และเพิ่มจำนวน สส. ให้เห็นว่า พรรคกล้าธรรม กำลังเติบโต และการันตีได้ว่า ถ้าหลังเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ต้องมีกล้าธรรม เป็นพรรคร่วม อยู่แล้ว

แค่เห็นชื่อแม่ทัพของทั้ง 3 พรรค “พิพัฒน์ รัชกิจประการ (ภท.)- เดชอิศม์ ขาวทอง (ปชป.)-ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า (กธ.) ” ก็รู้ว่าศึกนี้ดุเดือดแน่

“โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ในฐานะแม้ทัพภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทย บอกว่าจะส่ง “ไสว เลื่องสีนิล” สามีของ “มุกดาวรรณ” เจ้าของเก้าอี้เดิมลงสมัคร และมั่นใจว่า จากฐานเสียงที่มี จะสามารถเอาชนะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ได้

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรค คงต้องจัดให้ “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” อดีต สส. 9 สมัย ที่ได้แสดงเจตจำนงชัดว่า ต้องการลงสมัครเพื่อทวงคืนเขตเลือกตั้งเดิมของตนเอง

ก่อนหน้านั้น “ชินวรณ์” เป็นสส.พื้นที่ เขต 8 มาโดยตลอด แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดดันวางแผนผิดพลาด หรือ ประมาท หรือจะว่า “โลภมาก ลาภหาย” ก็ตามแต่ เพราะ ชินวรณ์ส่งลูกสาว ลงเขต 8 แล้วตัวเองไปลง เขต 7

ผลปรากฏว่า สอบตกทั้งพ่อทั้งลูก เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ “ชินวรณ์” จึงขอลงทวงพื้นที่ เพื่อกลับเข้าสภาในฐานะ สส.สมัยที่10 ซึ่งทางพรรคก็เปิดไฟเขียว เพราะช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะตกต่ำอย่างไร เขาก็ไม่เคยคิดแปรพักตร์

ลำพังแค่ ภูมิใจไทย ปะทะ ประชาธิปัตย์ ก็ว่าเดือดแล้ว เพราะถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีในการทวงคืนพื้นที่
แต่เมื่อมี “ผู้กองธรรมนัส” ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ประกาศขอเข้ามาร่วมแจม เพื่อขยายฐานในพื้นที่ภาคใต้ สมรภูมินี้ยิ่งร้อนแรง

โดยเฉพาะผู้ที่จะลงสมัครคือ “ก้องเกียรติ์ เกตุสมบัติ” อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลงสมัคร ที่เป็น “ลูกเขย” ของ “ชินวรณ์” ซึ่งกำลังจะลงสมัครในนามประชาธิปัตย์

ก้องเกียรติ์ เกตุสมบัติ
ก็เลยกลายเป็นศึก “พ่อตา-ลูกเขย” ที่สร้างความฮือฮาขึ้นมาทันที

ทั้ง “ชินวรณ์” และ “ก้องเกียรติ์” ไม่สนใจที่ใครจะว่าลงมาตัดคะแนนกันเอง เพราะถือว่าแต่ละคนก็มี “อุดมการณ์” เป็นของตัวเอง
ส่วนพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน แต่เชื่อว่าก็กำลังจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และลึกๆแล้วอาจจะแอบลุ้น “กล้าธรรม” อยู่ก็ได้

ต้องติดตามว่า 27 เม.ย.นี้ “ประชาธิปัตย์” จะสามารถฟื้นคืนพื้นที่ที่สูญเสียไปได้หรือไม่... “ภูมิใจไทย” จะรักษาที่มั่นไว้ได้หรือเปล่า และ “กล้าธรรม” จะสามารถแจ้งเกิดในภาคใต้ได้หรือไม่

สำหรับในภาพรวมแล้ว รัฐบาลมีเสียงที่เลยสภาพ “ปริ่มน้ำ”มาเยอะ และไม่ว่าใครจะชนะ ก็เป็นเสียงฝ่ายรัฐบาลอยูดี

คิดเสียว่า อยู่ว่างๆ ก็ซ้อมรบกันเล่น สร้างความคึกคัก ครึกครื้นในทางการเมืองกันไป


กำลังโหลดความคิดเห็น