นางเกณิกา เสตะปุระ หรือ อ.แหม่ม นายกสมาคมพระกริ่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนา และคณะ ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคารถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวจากประเทศเมียนมาร์ ย่านจตุจักร โดยนางเกณิกา และคณะ ได้มอบข้าวเหนียวหมูทอด จำนวน 250 ห่อ น้ำดื่ม 250 แก้ว เครื่องดื่มชูกำลัง 150 ขวด และสิ่งของอื่นๆ ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่เกิดเหตุ
โดย นางเกณิกา ระบุว่า ตนและทางสมาคมฯ ก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งถึงแม้ขณะนี้อาจจะต้องพึ่งปาฏิหาริย์เข้าร่วมด้วย แต่ก็ขอให้ปาฏิหาริย์นั้น ปรากฏเป็นจริง คือ มีผู้รอดชีวิตออกมาเป็นจำนวนมากที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้กำลังใจบรรดาญาติๆ ที่ยังรอคอยความหวังว่า จะได้พบกับคนที่รักอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่วิกฤตในเวลานี้ ก็คือ การมีสติสัมปชัญญะไม่ให้ตื่นตระหนกในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะการมีสติตั้งมั่นไม่หวั่นไหว จะเป็นการป้องกันไม่ให้ตนเองเกิดผลกระทบในเรื่องของจิตใจ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางไม่ให้หลง และการมีสัมปชัญญะว่าควรจะต้องระลึกถึงสิ่งใดก่อนหลัง ก็จะเป็นการวางแผนว่า ควรจะต้องทำอย่างไรในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลังจากนี้ เพราะฉะนั้น ตนจึงขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ จงดลบันดาลให้อาสาสมัครทุกท่าน สามารถค้นพบหาผู้ประสบภัยให้เจอโดยเร็วและรอดชีวิตกลับออกมาพบญาติพี่น้องอันที่เป็นที่รัก รวมทั้ง ขอภาวนาให้ทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว สามารถฟื้นฟูกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วอีกด้วย
“ในส่วนของประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือนั้น ก็ขอให้บริจาคมาเป็นสิ่งของจะเป็นการดีที่สุด เพราะจะได้นำมาใช้ในการช่วยเหลือของอาสาสมัครได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ก็ได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจกับบรรดาญาติๆ โดยได้แนะนำเกี่ยวกับการเตรียมสภาวะจิตใจในสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้ง ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำหรับในส่วนของศาสนสถานที่เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ดิฉันขอเรียกร้องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นต้น เร่งส่งวิศวกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปดูแลโดยด่วน เพราะศาสนสถานที่เคารพหลายแห่ง ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จนส่งผลต่อจิตใจของประชาชนที่เคารพศรัทธา เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องสำรวจความเสียหายโดยด่วน ก่อนที่จะมีการตั้งงบประมาณในการบูรณะซ่อมแซมกันต่อไป” นางเกณิกา กล่าว