วันนี้ (29 มี.ค.) น.ส. ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมา ระดับความรุนแรง 8.2 ว่า ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บต่อเหตุการณ์ตึกถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตนเชื่อว่าภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิด และคงต้องมีการสืบสวนเรื่องของทางวิศวกรรมต่อไป
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวด้วยว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้รุนแรงมากสำหรับประเทศไทย หลายคนที่เกิดมาอาจจะยังไม่เคยประสบด้วยตัวเองแบบนี้ ทำให้เกิดอาการตื่นตระหนก ทำอะไรไม่ถูก เห็นได้จากสิ่งที่เราเคยเรียนมา เคยได้รับการฝึกฝนว่าหากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นจริง เราควรหลบใต้โต๊ะ และค่อยๆอพยพเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น แต่ความเป็นจริง กลายเป็นว่ามีความแตกตื่นโกลาหล สะท้อนว่าประเทศของเรากำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถจัดการได้อย่างเป็นระบบ
“ประเทศไทยเราเคยเจอแต่น้ำท่วม คุ้นชินอุทกภัยหนักๆ ภัยแล้งมามาก แต่กับแผ่นดินไหว ทุกอย่างดูเป็นเรื่องใหม่ จึงจัดการยาก ดังนั้น จึงเป็นบทเรียนให้ทุกคน จากนี้ไปจะต้องตั้งรับ และรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวโดยเฉพาะ และเตรียมตัวทุกเมื่อ” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ ระบุว่า ตนมาจาก สว.กลุ่มสื่อมวลชน สิ่งที่ยังเห็นว่าเป็นปัญหามากคือเรื่องการสื่อสาร การที่ประชาชนเชื่อและแชร์ข่าวที่เป็นเฟคนิวส์ และไม่ได้รับการยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จะเกิดสึนามิตามมา ทั้งที่ข้อเท็จจริง สึนามิจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิดแผ่นดินไหวใต้พื้นมหาสมุทรในแนวตั้ง รวมถึงเรื่องสลิงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขาด ทั้งที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ก็แชร์กันออกไปจนเกิดความหวาดกลัว นอกจากนี้ แม้ว่าแผ่นดินไหวจะไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ แต่ยังไม่มีการแจ้งเตือนระหว่างเกิดเหตุได้ทันท่วงที จึงเป็นปัญหาให้คนสับสนมากว่าต้องทำตัวอย่างไร ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ให้สุดความสามารถ เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด