xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ชี้มูล “พิสิษฐ์” อดีต ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร รวยผิดปกติ ชงศาลยึดเป็นของแผ่นดิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “พิสิษฐ์ ยอดวันดี” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 2 อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
วันนี้ (27 มี.ค.) นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 เปิดเผยเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายพิสิษฐ์ ยอดวันดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 2 อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ว่า ผู้ถูกกล่าวหา และภรรยา ซึ่งเป็นครูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 1 อำเภอพรานกระต่าย มีฐานะปานกลางเหมือนครูทั่วไป พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมีฐานะปานกลาง ไม่มีอาชีพเสริมใดๆ ผู้ถูกกล่าวหา มีรายได้ต่อเดือน 67,250 บาท นับเงินเดือนที่มาดำรงตำแหน่งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 นี้ ประมาณ 31 เดือน รวมเป็นเงิน 2,084,750 บาท แต่มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ

โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาคลองขลุง เงินฝากและหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชร จำกัด บัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาคลองขลุง บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาคลองขลุง รถยนต์มาสด้า 323 บ้านพักที่อำเภอพรานกระต่าย (ปรับปรุงขณะดำรงตำแหน่ง) ทองรูปพรรณและอื่นๆ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจ�ในตำแหน่งหน้าที่ เป็นเงินทั้งสิ้น 2,714,744.53 บาท ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริง โดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกผู้ถูกกล่าวหาภายใน 60 วัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ต่อไป

หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้วแต่กรณี ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของ�ผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลา 10 ปี ตามนัยมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น