xs
xsm
sm
md
lg

แฉ“บิ๊กป้อม”รู้เห็น MOU 44 ช่วงนั่งหัวโต๊ะ JTC ดอดคุยปิโตรเลียมกับกัมพูชาตลอด แถมเคยเดินหน้าเกือบสุดซอย แต่กลุ่มทุนเกิดขัดแย้งจนแผนล่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(27 มี.ค.)จากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ช่วงหนึ่งนายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายถึงประเด็นปัญหาเขตแดนไทยกับกัมพูชาที่มีต้นเหตุมาจาก MOU 2544 โดยระบุว่า นายกฯกำลังจะเอาทรัพยากรที่อยู่ใต้น้ำไปให้กับทางกัมพูชา เพราะคนในครอบครัวนายกฯ สนิทสนมกับทางกัมพูชานั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด พปชร.ระบุว่า การที่พรรคพลังประชารัฐอภิปรายเรื่องดังกล่าว ไม่ต่างอะไรกับการอภิปรายหัวหน้าพรรคตัวเองอย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”เพราะเมื่อปี 2564 พล.อ.ประวิตร คนนี้ก็คือ ประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) นั่นเอง ซึ่งประเด็นนี้เคยมีสื่อหลายสำนักนำไปเผยแพร่แล้วว่า การประชุมคณะกรรมการ JTC ไทย-กัมพูชา ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธานได้ดำเนินการาเรื่อย ๆ และต่อเนื่อง โดยได้พิจารณาร่างกรอบการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ในการพัฒนาพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping Claims Area-OCA) และการแต่งตั้งคณะทำงานไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการแบ่งเขตทางทะเล (ฝ่ายไทย) และคณะทำงานไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับระบอบพัฒนาร่วม (ฝ่ายไทย)ไปแล้ว

โดยร่างกรอบที่ฝ่ายเลขานุการกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ JTC พิจารณา ในครั้งนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ
1.แก้ปัญหาการอ้างสิทธิทับซ้อนในไหล่ทวีปไทย–กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตร.กม.
2.ดำเนินการตาม MOU 2544 ให้เกิด “ข้อตกลงแบ่งเขตทางทะเล” และ “ข้อตกลงพัฒนาร่วมทรัพยากรปิโตรเลียม” ใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ
3.ใช้กลไกคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย–กัมพูชา (JTC) ที่เคยตกลงกันไว้แล้วเป็นกรอบการเจรจา

“องค์ประกอบของคณะกรรมการ JTC ประกอบไปด้วยพล.อ.ประวิตร ที่เป็นประธาน และผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน รวมถึงตัวแทนจากภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเจรจากับทางกัมพูชาของ พล.อ.ประวิตร เกือบจะบรรลุข้อตกลงทุกอย่างไปแล้ว ตั้งแต่ปี 64 แต่ผลประโยชน์มหาศาลอย่าง ก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล จึงเป็นปมใหญ่ที่ทำให้กลุ่มทุนพลังงานในสมัยนั้นเกิดความขัดแย้งขึ้น MOU44 จึงคงค้างไว้เช่นนั้น จนมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน“แหล่งข่าวคนเดิม ระบุ

แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทของ สส.พรรคพลังประชารัฐ ในเวทีการเมืองต่อเรื่องนี้ ได้แสดงจุดยืน คัดค้าน MOU 2544 อย่างหนัก และระบุว่า รัฐบาลอาจทำให้ประเทศไทย “เสียดินแดน” ทั้งที่หัวหน้าพรรคของตัวเองเคยเดินหน้าในฐานะ “ประธาน JTC” อย่างเต็มตัว และรับรู้ร่างกรอบเจรจาฉบับนี้โดยละเอียด ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แค่รับรู้เรื่อง MOU 2544 แต่เคยใช้มันเป็นเครื่องมือในการเจรจากับกัมพูชาด้วยตัวเอง ก่อนจะกลับลำมาโจมตีรัฐบาลในวันนี้ ว่าอาจทำให้ไทยเสียดินแดนจาก MOU ฉบับเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น