xs
xsm
sm
md
lg

ดูดมาเข้าพรรคแล้วไม่ดูดำดูดี “เอกราช”คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ขอหนีห่าง“เสี่ยหนู” กลับไปซบ “ผู้กองนัส” ** ตรวจแถว“งูเห่า” ที่ตัวอยู่ฝ่ายค้าน แต่โหวตหนุน “นายกฯอิ๊งค์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอกราช ช่างเหลา - อนุทิน ชาญวีรกูล - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ ดูดมาเข้าพรรคแล้วไม่ดูดำดูดี “เอกราช”คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ขอหนีห่าง“เสี่ยหนู” กลับไปซบ “ผู้กองนัส”

ประกาศออกสื่อชัดเจนไปแล้ว เมื่อวาน (26 มี.ค.) สำหรับ “เอกราช ช่างเหลา” สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ว่าจะย้ายไปอยู่กับพรรคกล้าธรรม ที่มี “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค และ“ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค

ส่วนจะย้ายไปเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ ของทั้งสองพรรคคุยกัน ตกลงกันได้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น

“เอกราช” บอกเหตุผลที่เลือกไปอยู่กับ “ผู้กองนัส” ว่า เพราะเป็นเพื่อนตายกันมา 10 กว่าปี เป็นอะไรที่ผูกพันกันมานานมาก เมื่อมีความประสงค์ที่จะหาพรรคเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง ก็ต้องหาเพื่อนที่เรามีความเชื่อมั่น

“ท่านธรรมนัส ถือว่าเป็นบุคคลที่ผมมีความเชื่อมั่น” เอกราช กล่าว พร้อมบอกว่า ความผูกพันกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น น้อยกว่ากับความผูกพันกับ“ผู้กองนัส”

เอกราช ช่างเหลา
“เอกราช” บอกถึงเหตุผลที่ต้องตัดสินใจย้ายพรรค ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่คงไม่ต้องอธิบาย แต่ที่แน่ๆ ก็เพื่อความสบายใจในการทำงานทางการเมือง ที่คิดว่าถ้าออกมาแล้ว น่าจะทำงานได้คล่องตัวมากกว่า

“คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก” คือคำพูดที่ “เอกราช ช่างเหลา” ย้ำกับนักข่าวเมื่อวาน เพราะไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดเหตุผลที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจได้ ซึ่งอาจไม่ใช่การทำงานทับพื้นที่ แต่เป็นเรื่องของความเห็นต่าง จึงถอยออกมาเพื่อความสบายใจในการทำงานเพื่อประชาชน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ก็ไม่รู้ว่า “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือว่า “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่ของพรรค ไปทำอีท่าไหน อุตส่าห์ดูดเอา “เอกราช ช่างเหลา” และ “วัฒนา ช่างเหลา” สองพ่อลูก ออกมาจากกลุ่มของ “ผู้กองนัส” ตอนถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ครั้งแรก เมื่อต้นปี 2565 เข้ามาอยู่ในพรรคเรียบร้อย

แต่เอาไปเอามา กลับทำให้เขาต้องอึดอัดคับข้องใจ อยู่ได้ไม่ทันไรก็ต้องตัดสินใจออกจากพรรคเสียแล้ว

โดย “วัฒนา ช่างเหลา” ผู้ลูกนั้น ได้ลาออกจากพรรคภูมิใจไทย ไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เพื่อลงเลือกตั้งเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2567 ที่ผ่านมา และเอาชนะแชมป์เก่า 6 สมัย อย่าง “พงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์” ได้สำเร็จ

อนุทิน ชาญวีรกูล
ส่วน “เอกราช ช่างเหลา” ผู้พ่อนั้น ในใจก็อยากจะออกจากพรรคให้เร็วที่สุด แต่ก็ติดเงื่อนไขกฎหมายพรรคการเมือง ถ้าจะออกจากพรรคโดยไม่พ้นสถานภาพ สส. ก็ต้องให้พรรคมีมติขับออกเท่านั้น

แต่กระนั้น “เอกราช” ก็ยังไว้หน้าเจ้าของพรรคเดิม โดยยืนยันว่า การออกจากพรรคครั้งนี้ ไม่ถึงขั้นแตกหัก พรรคการเมืองอย่างไรก็ต้องดีลงานกัน และเป็นการจากกันด้วยดี พร้อมบอกว่าได้คุยกับ “เสี่ยหนู” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเข้าใจกัน ไม่มีการคัดค้าน เหนี่ยวรั้ง และเพื่อความสบายใจก็จะดำเนินการให้ตามความต้องการ ก็คาดว่าจะเป็นการขับออก

ทางด้าน “ผู้กองนัส” ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่สภาเมื่อวาน ก็บอกว่า ได้คุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว เข้าใจกันแล้ว เพื่อความชัดเจน ไม่ชอบเป็นอีแอบ และคงไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ทั้งสองพรรคต้องมาทะเลาะกัน เราคุยกันชัดเจน

ตัดภาพมาอีกมุมหนึ่งของสภา “เสี่ยหนู” ให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวานเหมือนกัน กลับบอกว่า อีก 2 ปี ก็เลือกตั้งใหม่แล้ว ใครจะอยู่ใครจะไป ถ้าไม่จำเป็นอะไรก็ไม่ต้องไปทำอะไร เพื่อให้เสียความรู้สึกต่อกัน

จับสังเกตท่าทีของ “เสี่ยหนู” ก็ดูเหมือนว่า จะกั๊กไว้แบบนี้ก่อน ไม่ต้องขับต้องอะไรทั้งนั้น อ้างรออีกแค่ 2 ปี ก็เลือกตั้งแล้ว ช่างเหมือนที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ทำกับ “งูเห่าพรรคส้ม” ก่อนหน้านี้เสียนี่กระไร โดยไม่ยอมขับสส.ที่ฝ่าฝืนมติพรรคออกจากพรรค หวังจะให้งูเห่าแห้งตายไปเอง เพราะออกไปหาพรรคใหม่สังกัด ก็ไม่ได้ อยู่กับพรรคเดิมก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมพรรค

ก็ไม่รู้ว่าในใจลึกๆ “เสี่ยหนู” จะคิดแบบนั้นหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ข้ออ้างว่าที่ว่าถ้าขับออกจากพรรคแล้วจะทำให้เสียความรู้สึกต่อกัน มันฟังไม่ขึ้น เพราะ“เอกราช” เขาก็บอกให้ได้ยินเต็มสองรูหูอยู่ว่า อยากให้ขับเขาออกจากพรรค

ส่วนที่อ้างว่า การขับออกจะใช้เหตุผลอะไร ก็จะไปคิดมากทำไม ก็ดู“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นตัวอย่างก็ได้ ตอนที่กลุ่มของ “ผู้กองนัส” ไม่อยากอยู่กับพลังประชารัฐแล้ว ลุงแกก็ใช้มติพรรคขับออกให้ ตั้งสองครั้ง สองครา
เออ..เอาไปเอามา เรื่องความใจใหญ่ใจสปอร์ตนี่ ลูกเศรษฐีหมื่นล้านอย่าง “อนุทิน ชาญวีรกูล” สู้ทหารแก่ๆ อย่าง “ลุงป้อม” ไม่ได้เสียแล้ว

เรื่องที่ “เสี่ยหนู” จะให้รอถึง 2 ปี ค่อยออกจากพรรคนั้น “เอกราช” ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่น่าจะได้ ถึงยังไงการขับออกจากพรรคภูมิใจไทย ต้องเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

ก็คงต้องติดตามดูว่า “เสี่ยหนู” จะเอายังไงกันแน่ ในเมื่อใจเขาไม่อยากอยู่ด้วยแล้ว ก็ไม่รู้จะเหนี่ยวรั้งเขาไว้ทำไม

กาญจนา จังหวะ
++ ตรวจแถว“งูเห่า” ที่ตัวอยู่ฝ่ายค้าน แต่โหวตหนุน “นายกฯอิ๊งค์”

หลัง“นายกฯอิ๊งค์” ถูกซักฟอกมา 2 วันเต็ม ก็มาถึงเวลาลงมติ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า ระบบรัฐสภาไทย ถ้าไม่มีเรื่องขัดแย้งภายในรุนแรงถึงขั้นต้องล้างไพ่ใหม่ ตัวเลขผลโหวตที่ออกมา ฝ่ายรัฐบาลที่ถือเสียงข้างมากอยู่ ก็จะผ่านฉลุย

แม้ว่าผู้ถูกอภิปรายจะตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หรือจะอ่านตามโพยที่ทีมงานจัดไว้ให้ก็ตาม

ครั้งนี้ก็เช่นกัน คะแนนไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” มากถึง 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง งดออกเสียง 7 จากจำนวนผู้ลงมติ 488 เสียง

เริ่มที่คนงดออกเสียง 7 เสียงก่อน ได้แก่ ประธานสภา และรองประธานสภา อีก 2 คน รวมเป็น 3 เสียง ส่วนอีก 4 เสียงที่เหลือ เป็น สส.ประชาธิปัตย์ คือ “ชวน หลีกภัย” สส.บัญชีรายชื่อ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ และ “สรรเพชญ บุญญามณี” สส.สงขลา

ฐากร ตัณฑสิทธิ์
พูดง่ายๆว่า ผู้อาวุโสของประชาธิปัตย์ ทำใจลำบากที่จะโหวตหนุนนายกฯ จาก “ระบอบทักษิณ” ที่สู้รบกันมายาวนาน แม้วันนี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่มติพรรคก็เปิดช่องให้ “ฟรีโหวต” อยู่แล้ว จึงได้แค่งดออกเสียง ซึ่งในทางการเมืองถือว่า “สนับสนุน” ... แต่ถ้าโหวตสวนขึ้นมา จะถูกตราหน้าว่าเป็น “งูเห่า”ทันที

คราวนี้มาตรวจแถว ดูว่ามี “งูเห่า” ที่ตัวอยู่ฝ่ายค้าน แต่หันไปโหวตหนุน “นายกฯอิ๊งค์” ว่ามีใครบ้าง ปรากฏว่า มี 7 คน

มาจากพรรคไทยสร้างไทย ของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มากสุดถึง 5 คน จากที่พรรคนี้มี สส.อยู่ 6 คน ได้แก่ “สุภาพร สลับศรี” สส.ยโสธร “หรั่ง ธุระพล” สส.อุดรธานี “อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์” สส.อุดรธานี “รำพูล ตันติวณิชชานนท์” สส.อุบลราชธานี และ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” สส.บัญชีรายชื่อ

ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ ก็เหมือนไม่เต็มใจค้านอยู่แล้ว แต่วันนี้ถึงกับออกมายืนโหวตสวนกันให้เห็นๆไป
“เจ๊หน่อย” ก็เลยออกมาจัดหนักว่า คนพวกนี้ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกพวกเขาเข้ามา ทรยศต่อพรรคการเมืองที่สร้างให้เขาได้มีวาสนา เข้ามาเป็น“ผู้ทรงเกียรติในสภา” ทำตัวไร้จริยธรรมเพื่อแลกผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นตัวทำลายระบบประชาธิปไตย

คนกลุ่มนี้จะต้องถูกลงโทษโดยประชาชน และขบวนกระบวนการยุติธรรม ฐานผิดจริยธรรมร้ายแรง!!

ต้องติดตามดูกันว่า นอกจากออกมาพูดแล้ว “เจ๊หน่อย” จะมีมาตรการอะไรตามมาหรือไม่

ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์
งูเห่า ที่เหลืออีก 2 เสียง คือ “กาญจนา จังหวะ” สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ และ “ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” หรือ “ปูอัด” สส.กทม. อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่ถูกขับออกมา แล้วมาอาศัยพรรคไทยก้าวหน้า เพื่อรักษาสถานภาพ สส.

ในรายของ “กาญจนา จังหวะ” นั้นมีท่าทีที่แสดงออกมาให้เห็นว่า จะไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม มาก่อนแล้ว อย่างเช่นในการประชุมสภา ก็ไปนั่งรวมกลุ่มกับ สส.พรรคกล้าธรรม

ล่าสุด ก็เพิ่งไปเปิดตัว ร่วมทำบุญเปิดที่ทำการพรรคกล้าธรรม เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมานี่เอง ทำให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ถึงกับเหลืออด จึงสั่งปลดจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค

ส่วน “สส.ปูอัด” ก็แว่วว่าได้วิ่งเข้าหา หวังพึ่งบารมี “ผู้กองนัส” เหมือนกัน หลังจากโดนคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ที่ จ.เชียงใหม่

แต่เจ้าตัวบอกว่า ที่โหวตหนุน “นายกฯอิ๊งค์” ก็เพราะว่าชื่นชมในผลงานการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตรงกับงานที่ตนเองกำลังทำอยู่ ส่วนเรื่องคดีนั้น ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับงานการเมือง

“ถึงแม้ว่าผมอยู่จะในฐานะฝ่ายค้าน แต่หากรัฐบาลทำดี ผมก็มองว่าต้องช่วยกันบ้าง”

สรุปว่า ฝ่ายค้านมีจำนวน 171 เสียง โหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ 162 เสียง หายไป 9 เสียง เป็นงูเห่าเสียง 7 เสียง อีก 2 เสียงเป็น สส.พรรคประชาชน ที่ลาป่วย คือ “วรรณวิภา ไม้สน” สส.บัญชีรายชื่อ และ “สิริน สงวนสิน” สส.กทม.

ส่วน “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวขึงขังว่าจะขอเวลาฝ่ายค้าน อภิปราย “นายกฯอิ๊งค์” ด้วยคน สุดท้ายไม่ได้อภิปราย และก็หายหัวไม่ได้มาร่วมโหวต

เป็นอันว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ซึ่งเป็นหนึ่งใน “พิธีกรรมทางการเมือง” ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น

หลังจากนี้ ฝ่ายค้านจะมี “ดาบสอง” หรือ “โรยเกลือหลังจากหวดด้วยแส้” หรือไม่ ต้องติดตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น