xs
xsm
sm
md
lg

จัดแถวปรับครม. เพื่อไทย-กล้าธรรมเพิ่มโควตา!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร  - อนุทิน ชาญวีรกูล  - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เมืองไทย 360 องศา


ในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหมาย ว่า นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเสียงท่วมท้น นั่นคือ ได้คะแนน 319 ต่อ 162 เสียง


จากนั้น ไม่นาน น.ส.แพทองธาร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ดิฉันขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ร่วมชี้แจงทุกประเด็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ที่ร่วมกระบวนการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของประเทศ ทุกคะแนนเสียง ทั้งสนับสนุน และเสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้ดิฉันและคณะรัฐมนตรี มุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่า การผ่านมติแบบได้เสียงไว้วางใจแบบท่วมท้นของเธอ ไม่ใช่เหนือความคาดหมาย เพราะเสียงลงมติสนับสนุนครั้งไม่ได้วัดกันด้วยหลักฐาน รวมไปถึงการชี้แจงในสภา ว่าจะเคลียร์ข้อสงสัยได้หรือไม่ แต่วัดจากความประสงค์สำหรับการ “ร่วมรัฐบาล” กันต่อไป หรือไม่ และน่าสนใจก็คือยังมีเสียง ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้านจำนวนอีกนับสิบคนที่ ลงมติสนับสนุนนายกฯ เพิ่มจำนวนให้มากขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากภายนอก ทั้งบรรดาคนที่ติดตามการเมือง รวมไปถึงนักวิชาการหลายคนต่างออกเสียงตรงกันว่า การชี้แจงในสภาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นั้นถือว่า “สอบตก” ชนิดที่เรียกว่า ได้คะแนนน้อยมาก บางคนให้แค่หนึ่งคะแนน จากคะแนนเต็มสิบก็มี

ขณะเดียวกัน เมื่อการซักฟอกผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งที่ต้องจับตากันก็คือ การ “ปรับคณะรัฐมนตรี” ซึ่งมีการคาดหมายกันว่า ต้องเกิดขึ้นอีกไม่นานหลังจากนี้ อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์ของพรรคเพื่อไทย ที่มี นายทักษิณ ชินวัตร เป็น “เถ้าแก่”ใหญ่ แบบนี้ การปรับคณะรัฐมนตรี ถือว่าเป็นการ “หมุนเวียน” ตำแหน่ง บางครั้งเรียกว่าเป็นการ “ต่างตอบแทน” ได้ประโยชน์ทางการเมือง

แม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่า “ยังไม่มีแพลนจะปรับครม.ค่ะ”

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการไปกดดัน นายทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้มากดดันนายกฯ ขอเก้าอี้รัฐมนตรี นายกฯจะฟังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ ตนรับฟังอยู่แล้วทุกเรื่อง แต่ว่าได้คุยกันอยู่แล้ว เรื่องการตั้งรัฐมนตรีก็มีการปรึกษาพูดคุยกัน และสอบถาม อย่างเช่นที่จะอภิปรายรอบนี้ มีการพูดกับนายทักษิณอยู่แล้ว ว่ายังจะไม่ได้ปรับครม. ซึ่งนายทักษิณ ก็บอกว่า อ๋อ เหรอ โอเค อย่างนี้ค่ะ มีแค่นี้ ก็เลยยังไม่คิดจะปรับครม.ตอนนี้

“คุณพ่อไม่ได้ถามเรื่องปรับครม. แต่ครั้งนี้ยังไงจะปรับหรือไม่ปรับ เป็นการคุยกันว่ายังไง ซึ่งดิฉันก็คุยกับคุณพ่ออยู่แล้ว ว่ายังไม่ปรับ ครม.และเขาก็รับทราบ” นายกฯ กล่าว

ถามว่า เหตุผลที่ยังไม่ปรับครม.ตอนนี้ เป็นเพราะอะไร นายกฯ กล่าวว่า ยังรู้สึกว่าการทำงานกำลังต่อเนื่องได้ดี และคิดว่าอย่างน้อยๆ ทุกคนก็ต้องมีเวลาในการปรับตัว ที่จะเริ่มทำงานให้มันคล่องมือกันต่อไป ก็เหมือนตนนี่แหละค่ะ เพราะนี่ก็เป็นครม.แรก เหมือนที่ตนเพิ่งเข้ามา ก็ทำงานเท่าๆกัน เพราะฉะนั้นก็ดูกันไป

อย่างไรก็ดี หากมีการวิ่งเต้น ผ่านนายทักษิณ แบบนี้ต้องฟังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราฟังเหตุผลอยู่แล้ว แต่ว่าจะปรับ หรือไม่ปรับ เดี๋ยวเราค่อยคิดอีกทีหนึ่ง เมื่อถามว่าไม่ติดใช่หรือไม่ หากพรรคร่วมรัฐบาลจะขอขยับปรับในส่วนของเขา นายกฯ กล่าวว่า อืม ทุกอย่างรับฟังไว้ก่อนได้ เพราะบางทีเราอาจจะคิดไม่ครบก็ได้ ถ้าเราฟังและเราเปิดใจ แล้วก็รู้ว่าอะไรมันดีที่สุดแค่นั้นเอง ทุกเรื่องก็ต้องใช้เหตุผลอยู่แล้ว

เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้ว มีความมั่นใจได้เต็มร้อยว่า การปรับคณะรัฐมนตรีหลังจากนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่ และน่าจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนเปิดสมัยประชุมหน้า ซึ่งน่าจับตาก็คือ การปรับคณะรัฐมนตรีภายในพรรคเพื่อไทยนั่นเอง รวมไปถึงรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคกล้าธรรม ที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

สำหรับพรรคกล้าธรรม มีความเคลื่อนไหวทันทีหลังจากมีการโหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผ่านญัตติซักฟอกไปแล้ว มีการยืนยันย้ายพรรคของ นายเอกราช ช่างเหลา ที่ต้องการย้ายออกจากพรรคภูมิใจไทย ไปสังกัดพรรคกล้าธรรม โดยเขาย้ำให้มีการ “ขับออก” จากพรรค เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน โดยมีเจตนาให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด แม้ว่าท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะย้ำว่า จะไม่มีการขับออก แต่ให้อยู่กันไปอย่างนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งก็ตาม

นอกจากนี้ เมื่อจับสัญญาณก่อนหน้านี้ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกมาประกาศว่า รอดู “งูเห่า” จากพรรคฝ่ายค้านเทมาโหวตให้นายกฯ ราว 10 เสียง ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น แต่ใน 5 เสียง มาจากพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งก็รับรู้กันอยู่ว่า พวกเขาเป็น “งูเห่า” มีเจตนาย้ายมาซบพรรคเพื่อไทย นานแล้ว รวมไปถึงมีส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐอีกคนหนึ่ง ก็โหวตหนุนรัฐบาลด้วย และอาจเป็น “ดีล” ของ ร.อ.ธรรมนัส ก็เป็นไปได้สูง

แต่ถึงอย่างไร เมื่อจับสัญญาณแล้วก็พอเข้าใจได้ว่า น่าจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุผลในเรื่องของเสียงสนับสนุนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้โควตารัฐมนตรีต้องมาคำนวณกันใหม่

สำหรับพรรคเพื่อไทย ก็น่าจับตาว่าน่าจะต้องเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง หากพิจารณาในเรื่องผลงานที่ยังไม่เข้าตา เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นั่งอยู่ ถูกวิจารณ์ในเรื่องการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ กระทรวงการต่างประเทศ ของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รวมไปถึงกระทรวงการคลัง ที่มีนายพิชัย ชุณหชิร นั่งว่าการอยู่ แม้ว่าบางตำแหน่งถือว่ามีแบ็กดีก็ตาม แต่ในช่วงเวลาที่เหลือจากนี้ ถือว่าเข้าสู่โหมดแข่งขันเข้มข้นชี้ชะตาไปถึงผลการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องเร่งสร้างผลงาน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ รวมไปถึงตำแหน่งที่ต้องใช้มือทำงานทางการเมืองควบคู่ไปด้วย

ดังนั้น เชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีการเคลื่อนไหวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ให้จับตาภายในพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก รวมไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ต้องการโควตาเพิ่มเติมจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคอย่าง พรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขณะที่พรรคอื่นคงไม่มีการขยับมากนัก !!



กำลังโหลดความคิดเห็น