“พิพัฒน์” ให้ความมั่นใจผู้ประกันตน ไม่ปู้ยี่ปู้ยำ งบกองทุนประกันสังคม เล็ง คุยผู้เชี่ยวชาญลงทุนได้ผลตอบแทน 5% ต่อเนื่อง ป้องล้มละลาย 30 ปีข้างหน้า พร้อมต่ออายุไปได้อีก 55 ปี เพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพ-เงินเกษียณสูงขึ้น ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู ปมสอบข้อเท็จจริงใช้งบประกันสังคม ด้าน ปลัดแรงงาน ส่งข้อมูลแล้ว
วันที่ 25 มี.ค. เมื่อเวลา 19.05 น. ที่รัฐสภา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์กรณีการดำเนินการของประกันสังคม ที่พรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า สำหรับประเด็นที่มีข่าวมาตลอด 1 เดือน เรื่องเกี่ยวกับการซื้อตึก ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ซึ่งขณะนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอคำตอบออกมา ตนไม่สามารถก้าวล่วง แต่ส่วนประเด็นที่ตนให้ความสำคัญ คือ การบริหารกองทุนประกันสังคมใน 30 ปีข้างหน้า เพื่อไม่ให้มีการล้มละลาย ภายหลังที่มีสถาบันต่างๆ ออกมาประเมิน
หากไม่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการหาผลประโยชน์ก็อาจจะล้มละลายในปี 2597 ได้ แต่ตนขอแจ้งความคืบหน้าในปี 2566 ได้ดอกผลจากการลงทุนร้อยละ 3.1 ในปี 2567 ได้ดอกผลร้อยละ 5.34 เป็นเกณฑ์ที่ตนตั้งเป้าหมายไว้ ที่จะต้องได้ดอกผลร้อยละ 5 ขึ้นไป แต่จะทำให้ได้ผลร้อยละ 5 ตลอด 30 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งจะต้องมีการลงทุนให้รอบคอบ ทั้งลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปลัดกระทรวงแรงงานจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ดอกผลตามเป้าหมาย
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ร้อยละ 60 ของกองทุนเราลงทุนเรื่องที่มีความเสี่ยงต่ำ จึงมีดอกผลน้อย ส่วนร้อยละ 40 จะต้องหาลงทุนและหาวิธีถ่วงดุลอย่างไรเพื่อดึงในส่วนของร้อยละ 60 เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยร้อยละ 5 ของปี ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เราหนักใจจึงต้องทำงานให้เกิดความรอบคอบ
นอกจากนี้ เราจะมีหลักประกันในส่วนหนึ่ง คือ บอร์ดประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และอนุต่างๆ ที่บอร์ดใหญ่ส่งตัวแทน จึงมีผู้ที่จะมาช่วยคัดกรองและคิด รวมถึงประเมินสถานการณ์ในอนาคต กลาง ใกล้ และในขณะนี้ว่าเราจะทำอย่างไร
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หากเราทำรายได้คงที่ร้อยละ 5 ตลอดระยะเวลา 30 ปี เราจะสามารถยืดชีวิตไปได้ 55 ปี และจากการทำงานของตนที่มีการระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญต่างๆ จากนานาประเทศมาช่วยคิด เพื่อหาค่าตอบแทนให้กับประกันสังคม โดยภายใน 12 ปีข้างหน้า กองทุนประกันสังคมอาจจะโตถึง 6 ล้านล้านบาท แต่หากเราไม่ทำอะไรต่อก็จะล่มสลาย
“จึงอยากบอกผู้ประกันตนทุกคนให้สบายใจ ผู้บริหารของกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม จะไม่นำเงินของพวกท่านไปทำอย่างปู้ยี่ปู้ยำ เราจะนำเงินของท่านมาดูแลและทำให้เกิดดอกผลสูงสุด และหากทำได้ตามเป้าสิ่งที่ตามมาจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน เช่น การตรวจร่างกายก่อนจะป่วย เงินเกษียณจะได้รับสูงขึ้น”
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งคำชี้แจงการใช้งบประกันสังคมไปยังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เพื่อเข้าสู่ที่ประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประกันสังคมเป็นผู้ทำหนังสือชี้แจงไป