“วิโรจน์” จวก นายกรัฐมนตรี เห็นแก่ตัว ถาม “แพทองธาร” ประเทศนี้คุณคนเดียวเหรอที่มีลูก ซัดให้วิปรัฐบาลมาเจรจาซักฟอกถึงตีห้า สุดท้ายเห็นแก่ความสบาย เหน็บลูกคุณหนูต้องมีพี่เลี้ยงคอยป้อนข้าวเช็ดปาก แนะทีมองครักษ์ดูข้อบังคับการประชุม แม่นๆ หน่อย เขาให้ฝ่ายบริหารชี้แจง ฝ่ายบริวารไม่ต้อง ยิ่งออกมายิ่งด้อยค่าผู้นำ ยันตนไม่ได้พูดคำหยาบ Chat GPT ก็รู้ สมุน 5 บาท 10 บาท เอามาเบี่ยงประเด็น
วันที่ 21 มี.ค. 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัวอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว รอดีเดย์อย่างเดียว ไม่ได้หวั่นอะไร ทุกอย่างพร้อมมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว ซึ่งทีเด็ดของเรายังอยู่ที่เนื้อหาสาระที่ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานที่ต้องการให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงด้วยตัวเอง
“หลายประเด็นที่เขาเก็งข้อสอบ บอกว่า ข้อสอบรั่ว บางทีในฐานะคนออกข้อสอบมันก็อมยิ้มอยู่ลึกๆ ครับ เราออกข้อสอบถามลูก แต่คนเก็ง เก็งว่าเราไปถามพ่อ แต่เรายืนยันว่าเราถามลูก และเราก็หวังว่าลูกจะตอบด้วยตัวเอง สิ่งที่เรากลัวในวันนี้คือระหว่างทำข้อสอบ ลูกจะแอบโทรศัพท์ไปถามพ่อ ซึ่งพ่อก็ไม่น่าจะตอบได้อีก ทุจริตข้อสอบ พ่อก็พยายามจะยิงคำตอบมาให้ แต่ก็ต้องยืนยันว่าเราถามลูก ไม่ได้ถามพ่อ” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยตั้งองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับการประชุมเต็มคณะ 20 คน สะท้อนอะไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เขาคงต้องกระวีกระวาดแหละ คุณหนู ลูกนายใหญ่ใช่ไหม
“พวกเหล่าบรรดาลูกสมุน บรรดาบริวารในกงสีก็ต้องออกมาทำคะแนนเนอะ ใช่หรือไม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดา มันก็ยิ่งทำให้ด้อยค่าภาวะผู้นำของตัวนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนกับลูกคุณหนู ไข่ในหินอะไรอย่างนี้ ต้องมีพี่เลี้ยงคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดอก เช็ดปากตลอดเวลาอะไรอย่างนี้” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ ยังฝากไปถึงทีมองครักษ์ ว่า ให้แม่นข้อบังคับการประชุมหน่อย ข้อ 177 นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนตอบข้อชี้แจงเอง ต้องย้ำตรงนี้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คนที่มีหน้าที่ชี้แจงคือฝ่ายบริหาร ฝ่ายบริวารอย่าเข้ามายุ่ง
เมื่อถามถึงดรามาการใช้คำแรงวันที่ไปเรียกร้องให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาหมอคางดำ จนทำให้ฝั่งรัฐบาลมองว่าไม่มีกาลเทศะ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ดูสิ ก็ตายยกรังเลย เห็นไหม เรื่องนี้เป็นความจงใจ เป็นเจตนาของพรรคเพื่อไทยที่จะหยิบเล็กหยิบน้อย จับจดกับเรื่องเล็กๆ ในห้วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน คนอย่างแพทองธาร ชินวัตร แทนที่จะมารับเรื่องร้องเรียน มาฟังความทุกข์ร้อนจากประชาชนที่เขาสิ้นเนื้อประดาตัวจากปัญหาปลาหมอคางดำ แต่กลับเดินเล่นในสวน รับช่อดอกไม้จากนายทุน เขาพยายามจะปิดข้อเท็จจริงที่น่าอดสูอย่างนี้ ตนมั่นใจว่า คนมากกว่าครึ่งประเทศ มากกว่า 70-80% ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้รู้สึกว่าคำที่ตนพูดไม่เหมาะสม เพราะใช้วลีนี้เป็นเรื่องสามัญไปแล้ว
“ไปถามจาก Chat GPT ก็รู้ ไม่ได้หยาบคายตรงไหน Chat GPT ก็ตอบอยู่แล้วว่าไม่หยาบคาย แต่มันจะมีคนในรัฐบาล พวกลูกหาบ ลูกสมุน พวกตัวประกอบ 5 บาท 10 บาท พยายามเอาเรื่องนี้มาเบี่ยงเบนประเด็น ผมคิดว่าใจร้ายกับประชาชน และไม่รู้หน้าที่ ในขณะที่ประชาชนทนทุกข์ กลับเดินเล่นในสวนสบายใจเฉิบ” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่า ที่เคยเปรยเอาไว้ว่าตีห้า อยู่ฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ไหว ต้องกลับบ้านไปดูลูก ตนอยากจะบอกว่าตีห้านี้ ไม่เคยเป็นดำริหรือความคิดของฝ่ายค้าน จำนวนเวลา 30 ชั่วโมง ที่เสนอไป เราพยายามกระจายเวลาให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกินเวลาเที่ยงคืน เพื่อให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง คนตัวเล็กตัวน้อยได้กลับไปพักผ่อน
“นายกฯ ครับ แพทองธาร ในประเทศนี้ คุณคนเดียวเหรอที่มีลูก คุณคนเดียวหรอที่มีครอบครัว บางคนที่เขายังไม่มีลูก เขาก็มีพ่อแม่ที่ต้องกลับไปดูแล แล้วคุณให้วิปรัฐบาลมาเสนอตีห้า โดยที่คุณไม่อยู่ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลูกจ้าง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทำงานได้อย่างไร นี่ไง พฤติกรรมที่เอาแต่ความสบายของตัวเอง เห็นแก่ตัว” นายวิโรจน์ กล่าว