ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ จบที่เราเบาที่สุด “รัฐมนตูน” ไม่ใช่ “รัฐมนตรี พ.” โผล่คืนสร้อยมูลค่า 26 ล้าน ซื้อไว้ 8 ล้าน พิษ “ดิว-อริสรา” ป่วน ครม.“พี่หน่วง” ทำเซอร์ไพรส์ ได้ของ “มาดามเมนี่” คืน!?
เล่นเอารัฐมนตรี ที่มีชื่อนำหน้า “พ.”ในคณะรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร ชินวัตร” ว้าวุ่นกันหนักหลังถูกชี้เป้าบอกใบ้ว่าเป็นผู้รับของร้อนๆ สร้อยมรกต Lotus Arts De Vivre รุ่น Zambian Emerald & Diamond Necklace ที่มีมูลค่าสูงถึง 26,440,000 บาท ที่ว่ามีเส้นเดียวในโลกไว้ครอบครอง
งานนี้ก็ต้องบอกว่า สร้อยเป็นพิษจากเรื่องราวของ “ดิว อริสรา” อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดงสาวที่ยืมแบรนด์เนมและของมีค่าของ “มาดามเมนี่” หรือ เมย์- วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจสาว CEO & Founder รีโว่เมด ไทยแลนด์ รับผลิตครีม เครื่องสำอางและอาหารเสริม แล้วไม่คืน
ของที่ “ดิว อริสรา” ที่เปลือกนอกชีวิตติดหรู แต่ความจริงติดหนี้ ยืม "วาสนา" มีหลายรายงานมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยฝ่ายผู้ให้ยืมสืบทราบว่าของตัวเองได้ถูกเอาไปจำนำ หรือ ยักย้ายถ่ายเทเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินในราคาถูกแสนถูก แบบคนร้อนเงิน โดยคนมีตังค์หลายคนรวมถึง “รัฐมนตรี พ.” รับซื้อไว้
แว่วว่า ราคาสร้อยมรกต 26 ล้าน เคยมีคนติดต่อ มาดามเมนี่ จะขอซื้อที่ 40 ล้าน แต่ “ดิว” ขอยืมไปแล้วผ่องถ่ายไปถึงใครต่อใครจนถึง “รัฐมนตรี พ.” เคยราคาซื้อ-ขายอยู่ที่ 8 ล้าน!
ราคาแบบนี้รัฐมนตรีก็ต้องซื้อไว้ เพราะเชื่อว่าอนาคตได้กำไรอยู่แล้ว โดยคนที่เอาประเด็นนี้มาขยี้ต่อก็คือ “มดดำ”
ทีนี้เมื่อถูกพาดพิงว่าเป็น “รัฐมนตรี พ.” บรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อ พ.พาน นำหน้า ก็ถูกสปอตไลต์กวาดส่อง เพราะมีกันหลายคน ทั้ง “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯและ รมว.คลัง, พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน, พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาฯ ก็ออกมาเคลื่อนไหวเป็นพัลวัล บอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่รู้จัก ไม่ได้รับซื้อ
อย่าง “พิชัย” ผู้อาวุโส รมว.คลัง ถึงกับเกาหัวแกรกๆ บ่นอุบ เจอแค่ปัญหาเศรษฐกิจทรุดฉุดไม่ขึ้น ก็ปวดหัวกุมขมับแล้ว ยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก
ขณะที่นักแกะรอยในโซเชียลฯ ก็ตามหาสร้อยมูลค่า 26 ล้านกันให้ควั่ก เมื่อ “รัฐมนตรี พ.พาน” ต่างออกมาปฏิเสธ ก็มีคนตั้งข้อสังเกต หรือจะอยู่ที่ “รัฐมนตรี พ.แพ”!!
วันเดียวกันในรายการโหนกระแส ของ “พี่หน่วง” หนุ่ม กรรชัย ก็ทำเซอร์ไพรส์ นำกล่องสร้อย Lotus Arts De Vivre เส้นเดียวในโลกนั้น มาเปิดในรายการ และบอกว่า ตอนนี้ สร้อยเส้นนี้กลับมาแล้ว และนี่คือเซอร์ไพรส์จากผม “พี่หน่วง” กล่าว
จากนั้นก็มีคำเฉลยว่า สร้อยเส้นนี้มาจาก “ตูน” ที่ไม่เปิดเผยโฉมหน้า ก็ให้สัมภาษณ์ “หนุ่ม กรรชัย” ว่าเป็นคนที่ช่วย “ดิว” ซื้อสร้อย LOTUS เส้นนี้ไว้ในราคา 8 ล้านบาท โดยตูน รู้จักดิว ผ่านรุ่นน้องเพื่อจะทำธุรกิจร่วมกัน เชื่อว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของ “ดิว” ก็เลยรับไว้
เท่ากับว่า ตามที่เข้าใจกันว่า สร้อยมูลค่า 26 ล้าน อยู่ที่ “รัฐมนตรี พ.” ก็กลายเป็น ตูน หรือ ชาวเน็ตเรียกเป็น “รัฐมนตูน” หลังดูรายการพี่หน่วง
ประเด็นนี้ “กรรชัย” ก็ขยี้ถามตูน ก็ไหนบอกว่าสร้อยอยู่กับรัฐมนตรี “ตูน” ตอบว่า “บุคลิกหนูเป็นรัฐมนตรีไหมคะ จริงๆ ไม่ใช่ ไม่จริงค่ะ คืออย่างนี้ค่ะ ด้วยความที่ตูนทำธุรกิจน่ะค่ะ แล้วตูนรู้จักคอนเนกชันเยอะ ตูนมีปรึกษาทางเรื่องโปรเจกต์และเรื่องสร้อย ว่ามีคนจะเอามาฝาก แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อคุณดิว เลย”
ถามว่ารู้จัก รัฐมนตรีที่มีอักษรย่อ พ. หรือไม่ ? ตูน บอกว่า “ต้องบอกว่าใครๆ ก็รู้จักค่ะ ถามว่าส่วนตัวรู้จักไหม ส่วนตัวไม่ได้สนิทค่ะ แต่รู้จักค่ะ เพราะว่าตูนรู้จักหลายท่านมาก ต้องบอกอย่างนี้ค่ะว่า เราเป็นผู้น้อย ตูนไม่อยากจะดึงท่านขึ้นมา เพื่อที่จะมาให้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรากำลังพยายามช่วยเหลือคนคนหนึ่งอย่างเนี้ยค่ะ”
เรื่องราวก็ดูเหมือนจะจบ แต่ดรามาก็บังเกิดตามมา เพราะ ชาวโซเชียลฯ หลายคนสงสัย “ตูน” จะรับตัดตอนเอาสร้อยมาคืนพี่หน่วงแทนรัฐมนตรี พ. หรือไม่ ซึ่งก่อนนี้ “ดิว-อริสรา” บอกเองว่า อยู่ที่รัฐมนตรีนั่นเอง
เรียกว่า จบที่เราเบาที่สุด ออกมาบทนี้ก็แฮปปี้เอนดิ้ง “เมย์-วาสนา” ได้ของ “พี่หน่วง” ได้เรตติ้ง ตูน คืนของ –ใจกว้างไปทวงเงินคืนกับ “ดิว”
รัฐมนตรี พ. ก็คงโล่ง ไม่ต้องถูกขุดถูกคุ้ย งานนี้ วิน-วิน กันปายหรือป่าวลูกเพ่!
++ เบื้องหลังปะทะเดือด “อาจารย์แหม่ม- พิชัย” กลางวงครม. จน“นายกฯอิ๊งค์” ต้องสั่งเบรก
ในการประชุม ครม.เมื่อวันอังคาร18 มี.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า เกิดการปะทะคารมระหว่าง “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กับ “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ด้วยเรื่องส่งออกทุเรียน จนทำให้ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องออกปาก ให้ไปเคลียร์กันให้เรียบร้อยค่อยมารายงาน
คงจำกันได้ว่าเมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ ที่ทุเรียนนอกฤดูซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก มีปัญหาถูกทางการจีน สั่งแบน เนื่องจากตรวจพบว่ามีการปนเปื้อน สาร Basic Yellow 2 (BY2) ทำให้กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับผู้ส่งออก ต้องแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วน
และขณะนี้ก็กำลังเข้าสู่ฤดูกาล ที่ทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออก เริ่มออกสู่ตลาด ทาง “อาจารย์แหม่ม” ก็เพิ่งลงพื้นที่ พาทีมงานไปตรวจสอบสารแคดเมียม และ BY2 ไปพบตัวแทนเกษตรกร ล้งผู้ส่งออก ขอความร่วมมือ ทั้งกำชับในเรื่องไม่ให้มีการปนเปื้อนสารต้องห้าม เพราะจะส่งผลกระทบในการส่งออก สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรในภาพรวม
ต้องไม่ลืมว่า ปัจจุบันนี้ มูลค่าการส่งออกทุเรียนไปจีน สูงถึงหลักแสนล้านบาทต่อปี ถ้าปล่อยให้มีปัญหาจะพากันแย่ไปหมด
เมื่อมีการรายงานถึงเรื่องนี้ “พิชัย พริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ที่ช่วงนี้ถูกชาวนาถล่มเรื่องส่งออกข้าวไม่ได้ ข้าวราคาตกต่ำ ก็กดไมค์ถามถึงการทดสอบสาร BY2 ในทุเรียนที่ส่งไปจีน โดยอ้างว่าได้รับรายงานจากข้าราชการ ในกระทรวงเกษตรฯ มาเล่าให้ฟัง ถึงปัญหาการทดสอบ สาร BY2 ที่ยังพบในทุเรียนเป็นจำนวนมาก รวมถึงตั้งคำถามว่า เมื่อมีการอายัดทุเรียนมาแล้ว ทำไมไม่ทำลาย เพราะถือว่าผลผลิตมีปัญหา
ทำให้ “นฤมล” กดไมค์ พร้อมใช้สายตาพิฆาต ชี้แจงสวนไปว่า ข้อมูลที่“พิชัย”นำมาพูดนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะจากการเพิ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แม้ยังมีบางล้งที่อาจมีสารตกค้างบ้าง แต่เหลือจำนวนน้อยมากแล้ว ส่วนใหญ่เข้มงวดเพื่อรักษามาตรฐานในการส่งออก
ส่วนที่ว่า ทำไมกระทรวงเกษตรฯ ถึงไม่สั่งทำลายทุเรียนที่มีสารปนเปื้อน ก็เพราะว่า ทุเรียนถูกจัดอยู่ในส่วนของ ผักและผลไม้สด หน่วยงานที่จะมีอำนาจสั่งการให้ทำลายได้ คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เท่านั้น กระทรวงเกษตรฯไม่มีอำนาจไปสั่งการตรงนี้
แม้ภายหลัง “พิชัย” จะบอกกับผู้สื่อข่าว ก่อนออกจากทำเนียบฯว่า ได้พูดคุยเคลียร์ใจกับ “อาจารย์แหม่ม”แล้ว พร้อมบอกว่า แค่แลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการเคลียร์ฝ่ายเดียว เพราะมีรายงานว่าทาง “อาจารย์แหม่ม” ไม่แฮปปี้อย่างหนัก เพราะมองว่าอีกฝ่ายเสียมารยาทมาก
นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนใหญ่มองว่า “พิชัย” ไม่ควรไปก้าวก่ายงาน หรือพูดถึงปัญหาภายในของกระทรวงเกษตรฯ กลางที่ประชุมเช่นนี้ เพราะถือเป็นมารยาททางการเมือง หาก“พิชัย” รู้ข้อมูลมาจริง ก็ควรที่จะพูดคุยกับ “อาจารย์แหม่ม”นอกรอบ ก็ได้
ล่าสุด ดูเหมือนความขัดแย้งจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก หลังจากเมื่อวันที่19 มี.ค. “พิชัย” ได้เรียก ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัดจันทบุรี ไปร่วมพูดคุย โดยแจ้งว่าเป็นการพบปะกันวงเล็กๆ เพื่อสนับสนุน จ.จันทบุรี ให้เป็น “นครอัญมณี ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก” แต่ปรากฏว่า พอไปถึงกลับกลายเป็นห้องประชุมใหญ่ จัดอย่างเป็นทางการ พร้อมสื่อมวลชนเตรียมเสนอข่าว
โดย “พิชัย” ยังคงพูดถึงการตรวจพบสารตกค้าง BY2 ในทุเรียน และระบุด้วยว่าได้หารือและประสานงานอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ให้ช่วยผ่อนคลายการตรวจสอบทุเรียน ที่นำเข้าจากไทย
ตีกินว่าตัวเองเป็นคนแก้ปัญหา BY2 ในการส่งออกทุเรียนเสียอีก ทั้งที่การตรวจสาร BY2 ในทุเรียนนั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานงานผ่านเกษตรจังหวัด ดูแลเข้มมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ในเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ของนายกรัฐมนตรี ซึ่ง “อาจารย์แหม่ม” ได้ร่วมคณะไปด้วย และมีโอกาสได้หารือ กับ “ดร.ซุน เหมยจุน” รัฐมนตรีว่าการสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในเรื่องขอผ่อนปรนการตรวจสอบสารตกค้าง BY2 ในทุเรียนสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว
อันที่จริงการส่งออกทุเรียนนั้น ทางภาคเอกชน ก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับทางจีนมายาวนานพอสมควร สิ่งที่ “พิชัย” ควรทำ ในฐานะรมว.พาณิชย์ เพื่อส่งเสริมการส่งออกคือ ช่วยแก้ไขปัญหา และ เจรจาเรื่องผ่านแดน ว่า สามารถตรวจร่วมกัน หรือ ลดการใช้เวลาในการตรวจได้หรือไม่ เนื่องจากผลไม้สด มีปัญหาเรื่องของเงื่อนเวลา ถ้าช่วยในเรื่องเหล่านี้ ดูจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาที่ถูกจุด และจะเป็นประโยชน์มากกว่า
