xs
xsm
sm
md
lg

"สภาพัฒน์" แนะปรับเงินเดือน "ขรก.ทหาร" ไม่เหลื่อมล้ำ ขรก.พลเรือน หลัง ครม.ไฟเขียว ป.ตรี 1.8 หมื่น สูงสุด 2 หมื่น ประเดิม พ.ค.68

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



2 หน่วยงานรัฐ ให้ความเห็นแนะกลาโหม แก้กฎกระทรวงขึ้นเงินเดือนทหารบรรจุใหม่ ไม่เหลื่อมล้ำ ขรก.พลเรือน หลัง ครม.อิ๊งค์ ไฟเขียวปรับขึ้นเงินเดือนทหาร แรกบรรจุใหม่ ให้มีอัตราสอดคล้องกับข้าราชการพลเรือน ปริญญาตรี สตาร์ท 1.8 หมื่นบาท สูงสุดไม่เกิน 2 หมื่นบาท เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.2568 "สภาพัฒน์" ชี้ทบทวนและปรับเปลี่ยนระบบค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เร่งรัดให้ทันปรับอัตราเงินเดือน ของกลุ่มขรก./จนท.รัฐ ในห้วงปีที่ 2

วันนี้ (20 มี.ค.2568) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้า ภายหลัง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 18 มี.ค. ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารและการให้ได้รับเงินเดือนฉบับใหม่ ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.)เสนอ

มีสาระสำคัญเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนทหาร แรกบรรจุ ให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ โดยเริ่มต้นที่เดือนละไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นบาท

ล่าสุดพบว่า มติครม.ดังกล่าว ให้กระทรวงกลาโหม นำความเห็นของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการ

โดย สภาพัฒน์ ให้ความเห็นว่า ร่างกฎกระทรวงฯ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ

ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารงานบุคคล ของภาครัฐให้เป็นไปตามระบบคุณธรรมอย่างแท้จริง โดยทบทวนและปรับเปลี่ยนระบบค่าตอบแทนที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน และสอดคล้องกับภาระงาน

อย่างไรก็ตาม กห. ควรจัดทําประมาณการของจํานวนกลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณ ที่จะต้องใช้รองรับร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวไว้ด้วย

สําหรับอัตราเงินเดือนในบางคุณวุฒิ ที่ กห. กําหนดไว้ สูงกว่าหรือต่่ำกว่าอัตราที่สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)กําหนด

"กห.ควรพิจารณาให้มีความสอดคล้องกัน หรือชี้แจงรายละเอียด และเหตุผลความจําเป็น เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสม คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือน"

รวมทั้งสามารถสร้างแรงจูงใจ และดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ ให้เข้าสู่ระบบราชการมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังควรเร่งรัดการดําเนินการเพื่อให้ทันต่อการปรับอัตราเงินเดือน ของกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในห้วงปีที่ 2 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2568

ตลอดจนพิจารณาจัดทําแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบันและร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว

รวมทั้งจัดให้มีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานที่สอดคล้อง กับหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างแท้จริง

ด้าน สำนักงบประมาณ ให้ความเห็นว่าา ตามสาระสําคัญที่เป็นการปรับปรุงบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร

ให้สอดคล้องกับการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งสภากลาโหมได้มีมติเห็นชอบในหลักการแล้ว และสํานักงาน ก.พ. ก็ได้พิจารณา เห็นว่าสอดคล้องกับมติดังกล่าว

สําหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว เห็นควรให้ กห. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 หรือปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจําปี

"ตามความจําเป็นและเหมาะสม ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ ที่ได้รับจัดสรรแล้วเป็นลําดับแรก โดยคํานึงถึงความคุ้มค่า ความประหยัด ต้นทุนและผลประโยชน์ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม"

ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ เพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณ ในระยะยาว

มีรายงานว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารและการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้

ส่วนแรก เป็นการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหารตามระดับคุณวุฒิการศึกษาในบัญชีท้ายร่างกฎกระทรวง โดยเทียบเคียงกับอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่สำนักงาน ก.พ. รับรอง

เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับการปรับขึ้น ตามมติครม. 28 พฤศจิกายน 2566

เช่น ผู้บรรจุซึ่งมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี ที่มีหลักสูตรกำหนดเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 4 ปี แยกเป็น

กรณีบรรจุก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ให้ได้รับเงินเดือนแรกบรรจุเริ่มต้น 16,550 บาท แต่ไม่เกิน 18,230 บาท ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567

กรณีบรรจุหลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ให้ได้รับเงินเดือนแรกบรรจุเริ่มต้น 18,230 บาท แต่ไม่เกิน 20,040 บาท ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ ให้ปรับอัตราเงินเดือนภายใน 2 ปี ได้แก่ (1) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 และ (2) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป

ส่วนที่สอง ปรับบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร

โดยจัดเรียงลำดับบัญชีคุณวุฒิการศึกษาใหม่และจำแนกคุณวุฒิตามสถานศึกษา เป็นสถานศึกษาของกระทรวงกลาโหมและโรงเรียนทหารหรือวิทยาลัยการทหารในต่างประเทศ และสถานศึกษาภายในประเทศ รวมทั้งสิ้น 57 ลำดับ

สถานศึกษาของ กห. และโรงเรียนทหารหรือวิทยาลัย การทหารในต่างประเทศ (ลำดับที่ 1 - 18) สถานศึกษาภายในประเทศ (ลำดับที่ 19 - 57) เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับบัญชีคุณวุฒิการศึกษาของข้าราชการพลเรือนสามัญตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด (เดิม สถานศึกษาของ กห.ฯ และสถานศึกษาภายในประเทศถูกกำหนดรวมกันไว้ในบัญชีโดยไม่มีการจำแนก)

ส่วนที่สาม แก้ไขเพิ่มเติมจัดเรียงเลขลำดับที่คุณวุฒิกรณีการบรรจุนายทหารหรือข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นประทวน ซึ่งเลื่อนฐานะเป็นชั้นสัญญาบัตร เนื่องจากมีคุณวุฒิการศึกษาตามที่กำหนด

เช่น ผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ ให้ได้รับเงินเดือนในระดับและชั้นตามคุณวุฒิลำดับที่ 54 (เดิมให้ใช้คุณวุฒิตามลำดับที่ 38)

ซึ่ง สำนักงาน ก.พ.ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบแล้วและสภากลาโหมได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าวด้วยแล้ว.


กำลังโหลดความคิดเห็น