"หมอเปรม" ชง ‘ปธ.วุฒิฯ’ สอบโหวตตั้งองค์กรอิสระแบบแพ็ก 140 กว่าเสียง เหมือนหวยล็อก แนะเปิดโอกาสให้ สว.คนอื่น นั่งกมธ.สอบประวัติฯ บ้าง ไม่ใช่วนใช้แต่หน้าเดิม ปูด ใครอยากนั่งองค์กรอิสระต้องไปเที่ยวเมืองรองที่มีสนามฟุตบอลระดับชาติ สนามแข่งรถ
วันนี้ (20มี.ค.) นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แถลงกรณีการประชุมวุฒิสภาวาระการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทนที่ตำแหน่งที่ว่างลง ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ว่า มีชื่อ 3 บุคคลที่ผ่านคณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่ง กมธ.สอบประวัติฯ จะต้องนำชื่อบุคคลเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ โดยในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาในการบรรจุระเบียบวาระให้วุฒิสมาชิกพิจารณาเห็นชอบองค์กรอิสระ ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลปรากฎว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อจากกรรมการสรรหาฯ 2 ท่านนั้น ได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง เป็นอันว่าตกไป ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่ 2 บุคคลนั้น ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสรรหาฯ เต็มองค์คณะ และสังคมก็เห็นว่าเป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับการดำรงตำแหน่ง ทำให้หลังจากนี้ทั้ง 2 ท่าน คงไม่สามารถเสนอตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระได้อีก
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พวกเราในฐานะวุฒิสมาชิกจึงได้ปรึกษาหารือกันว่า ถ้าเรานิ่งเฉย และไม่มีกระบวนการในการตรวจสอบ วิธีการที่สมาชิกส่วนใหญ่ลงคะแนนเหมือนที่ผ่านมา คือเป็นแพ็คเกจ ประมาณ 140 เสียง ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้คนที่ดีๆ ต้องเสียประวัติ ก็จะทำให้สังคมยิ่งครหากับวุฒิสภาที่ขณะนี้ก็กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนักเรื่องการฮั้วเลือก สว. โดยตัวเลขเหล่านี้ก็เป็นตัวเลขเท่าๆ กัน อย่างไม่น่าเชื่อ
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ตนขอเสนอว่าให้ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้การตรวจสอบในขั้นตอนของ สว.นั้น เกิดผลที่พลิกความคาดหมายของสังคม เพราะเมื่อดูในรายละเอียดจะเห็นว่าการตกม้าตายในขั้นตอนที่ 2 ของ กมธ.สอบประวัติฯ นั้น มีแต่คนหน้าเดิมเป็นซ้ำๆ กัน
"ผมจึงขอขนานนามบุคคลเหล่านี้ว่า เป็นอภิมหายอดมนุษย์หรืออย่างไร เข้ามาตรวจสอบบุคคลนั้นบุคคลนี้ แล้วนำมาให้สว. 200 คนโหวต แล้วปัดตกได้ อย่างกับเป็นหวยล็อก ประมาณ 140 ต่อคะแนนเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้คนดีๆ ต้องเสียโอกาส และขอเรียกร้องให้มีการปรับปรุงกระบวนการที่คัดเลือก กมธ.สอบประวัติฯ ให้เปิดกว้าง โดยให้บุคคลใน สว.นั้นได้รับโอกาสในการเข้ามาทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ใช่วนเวียนอยู่กับแต่เป็นอภิมหายอดมนุษย์ประมาณ 30 คนนั้น จะได้ไม่ต้องมาบ่น ว่างานเยอะ ไม่มีเวลา เพราะไม่เช่นนั้น ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาจะเสียหายไปมากกว่านี้ ต้องแก้ปัญหานี้โดยด่วน ถ้าไม่แก้ก็จะไม่เหลือความเชื่อถือต่อสังคมภายนอก“ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการลงคะแนนของคนที่เป็นสมาชิกซึ่งเป็นที่ครหาว่า ไปรับฟังอะไรมาหรือไม่ หรือมีสัญญาณอะไรทำให้ต้องลงคะแนนเป็นแพ็กหรือไม่ ตนอยากจะขอเรียกร้องจิตวิญญาณความเป็นอิสระจากเพื่อนวุฒิสมาชิกว่า ขณะนี้สังคมกำลังไม่ให้ความเชื่อถือ สถาบันวุฒิสภาอย่างหนักมากขึ้น ท่านต้องเรียกร้องตัวเองว่าอย่าไปอยู่ภายใต้การสั่งการจากใครที่ไหนก็ตาม
”ผมได้ยินมาว่า ใครอยากจะเป็นองค์กรอิสระ ต้องไปท่องเที่ยวเมืองรอง ที่มีร้านลูกชิ้นอยู่หน้าสถานีรถไฟ มีสนามฟุตบอลระดับชาติ และมีสนามแข่งรถ เมืองรองเมืองนั้น ใครไม่ไป ก็แปลว่าไม่มีโอกาสได้เป็นกรรมการองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม“ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เสียงสำคัญในการชี้ขาดอนาคตทางการเมืองของประเทศคือเสียงจากองค์กรอิสระที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง แม้ตนจะเป็นวุฒิสมาชิกเสียงข้างน้อยก็ตาม แต่ไม่เพิกเฉยต่อภารกิจในส่วนนี้ จึงขอเรียกร้องเรื่องกฎระเบียบที่ต้องผ่อนคลายให้ทางสมาชิกได้เข้าไปช่วยกันทำงานมากขึ้น และขอให้ประธานได้พิจารณาด้วยดุลพินิจ อย่าไปเห็นแก่พรรคแก่พวก พร้อมเรียกร้องสมาชิกว่า เวลาลงคะแนนเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ อยากให้คำนึงถึงสายตาคนภายนอกมากกว่านี้ ว่าเขามองเราอย่างไร จะตอบคำถามประชาชนอย่างไร
”หากกรรมการองค์กรอิสระไม่เป็นอย่างใจปรารถนาของท่านผู้ยิ่งใหญ่ อะไรจะเกิดขึ้น บ้านเมืองของเราจะอยู่รอดปลอดภัย หรือจะมีอันตรายต่อไป มีความขัดแย้งมากมายต่อไปอย่างไร เพราะฉะนั้น พวกผมอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงมาขอส่งสัญญาณ แม้จะเป็นเสียงข้างน้อย และขอใช้โอกาสนี้ กระตุกหนวดเสือ อย่าไปคิดว่า จะได้อยู่ค้างฟ้า ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมด้วย ไม่อย่างนั้น ถ้าบ้านเมืองเราไปไม่รอด แล้วท่านผู้ยิ่งใหญ่จะรอดได้อย่างไร“ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว