xs
xsm
sm
md
lg

“ภูมิธรรม” ปัดจัดฉากเยี่ยม “อุยกูร์” ลั่นเขาไม่ใช่ดาราฮอลลีวูดจะได้สั่งน้ำตาได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภูมิธรรม” แจงดรามาเยี่ยม “อุยกูร์” ปัดจัดฉาก บรรยากาศที่ได้พูดคุยแสดงออกถึงความรู้สึก แต่เขาไม่ใช่ดาราฮอลลีวูดจะได้สั่งน้ำตาได้ ขอให้สื่อมวลชนบางส่วนเปิดใจให้กว้าง เขาต้องการใช้ชีวิตปกติ จะให้เราไปซักถามราวกับเขาเป็นนักโทษ ต้องให้เขาตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาตัดสินแทน

จากกรณีที่มีการกล่าวหาว่า การเดินทางเยี่ยมเยียนชาวอุยกูร์ 40 คน ณ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของคณะนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นการจัดฉากนั้น ล่าสุด วันนี้ (20 มี.ค.) เวลา 10.00 น. นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ชี้แจงว่า ทางการจีนได้ประสานและอำนวยความสะดวกในการพบกับชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย และจากการสื่อสารต้องใช้ภาษาอุยกูร์ ภาษาจีน และภาษาไทย แปลกลับไปกลับมาแบบเปิดเผย หากใครคิดว่าเป็นการจัดฉาก สามารถหาล่ามมาแปลได้ ไม่ได้มีการปิดบังอะไร และบรรยากาศที่ได้ไปพบพูดคุย โดยเฉพาะเครือญาติชาวอุยกูร์ แสดงออกถึงความรู้สึก ซึ่งไปบังคับกันไม่ได้ พวกเขาไม่ใช่นักแสดงชาวฮอลลีวูด ที่จะไปบอกให้ร้องไห้ก็ร้องไห้ได้ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ภาพที่ออกมาสามารถอธิบายได้ทั้งหมด เพราะเป็นภาพจากความรู้สึกจริง ดังนั้น จึงขอให้สื่อมวลชนบางส่วนเปิดใจกว้าง

สำหรับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ติดตามคณะมาในครั้งนี้ เป็นลักษณะเดียวกับการจัดสื่อมวลชนที่ติดตามคณะของนายกรัฐมนตรีไปทำภารกิจ ซึ่งจะเป็นตัวแทนหรือที่เรียกว่า “พูล” แต่ครั้งนี้นำมาจำนวนมากกว่า เพราะต้องการให้คนรับรู้ได้อย่างกว้างขวาง หากพิจารณาแล้ว สื่อมวลชนที่นำมา ก็เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก สำหรับสื่อมวลชนที่ไม่ได้ร่วมคณะ ย่อมทราบดีถึงระบบการจัดพูลดังกล่าว และภาพรวมถึงข่าว ก็แจกจ่ายอย่างทั่วถึง จึงขออย่าใช้เป็นเหตุผล ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ไม่ได้มาทำหน้าที่ เพราะเพื่อนสื่อมวลชนก็มาทำหน้าที่ให้แล้ว อย่านำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องใหญ่ให้ติดใจ หรือเกิดความสับสน แล้วทำให้เกิดความไขว้เขว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่น

ส่วนการจัดวิดีโอคอลคุยกับชาวอุยกูร์นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ต้องเคารพในอธิปไตยของจีน แม้จะสามารถเสนอได้ แต่ขึ้นอยู่กับทางการจีนว่าจะอนุมัติหรือไม่ และจากการพูดคุยกับชาวอุยกูร์ทำให้ทราบว่า ชาวอุยกูร์ต้องการใช้ชีวิตหลังจากกลับถึงจีนอย่างปกติ ดังนั้น การที่เราต้องการให้เขาออกสื่อสาธารณะ และซักถามราวกับเขาเป็นนักโทษ หรือเป็นจำเลยของพวกเราทุกคน ก็ต้องคำนึงถึงมนุษยธรรมด้วย ซึ่งเขาควรเป็นผู้ตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาตัดสินใจอนาคตแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น