“หมอเกศ” ยันไร้กังวล หลังส่อโดนข้อหาหลอกลวงให้เข้าใจผิด ปมวุฒิการศึกษา พร้อมไปชี้แจง กกต. แต่ตอนนี้ยังไม่แจ้งมา มั่นใจ สว.ทุกคนมาอย่างถูกต้อง ไม่มีนายทุนหนุนหลัง ย้ำ ตนไม่ได้เป็น สว.สีน้ำเงิน
วันนี้ (19 มี.ค.) พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า จะเรียกสอบประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบวุฒิการศึกษา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกไปสอบเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่ กกต.บอกว่า สำนวนดังกล่าวมี 2 ข้อหาด้วยกัน คือ ฝ่าฝืนมาตรา 77(1) และมาตรา 77(4) หลอกให้คนอื่นหลงเชื่อด้วย ได้เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่นั้น พญ.เกศกมล กล่าวว่า ไม่ได้มีการแจ้งอะไรมา แต่ กกต.ได้ส่งหนังสือสอบถามมา ตนจึงได้ชี้แจงกลับไปแล้ว
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พญ.เกศกมล กล่าวว่า ไม่กังวล และขอกำลังใจด้วย เพราะตนมั่นใจในความยุติธรรม รวมถึง กกต.ทั้ง 7 ท่าน ฉะนั้น หากเรียกไปสอบถาม ก็พร้อมที่จะนำหลักฐานไปชี้แจง
เมื่อถามว่า คดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มองว่า จะส่งผลต่อการทำหน้าที่ สว.หรือไม่ หากใน 3 เดือนเรียกมาสอบปากคำทีละคน พญ.เกศกมล กล่าวว่า ไม่กังวลเลย
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาของ สว. ว่า มีการฮั้วและฟอกเงิน นั้น พญ.เกศกมล กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่มีอะไรผิดปกติ หรือผิดทางด้านไหน อยากให้ทุกคนเข้าใจ และคอยให้กำลังใจพวกเราด้วย เพราะ สว.ตั้งใจทำงาน และทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ซึ่งมาถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายทุกประการ ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามีนายทุนพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง สว.บางกลุ่มนั้น ตนไม่ทราบ และคิดว่า ไม่เป็นความจริง และยืนยันว่า ในกลุ่มก๊วนของตนไม่ได้อยู่ในกลุ่ม สว.ค่ายสีน้ำเงิน ทุกคนมาถูกต้องตามกฎหมาย จึงอยากให้ประชาชนทุกคนเข้าใจ และให้กำลังใจพวกเราทุกคนด้วย
“ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในกลุ่ม สว.ได้มีการพูดถึงคดีความต่างๆ แต่ทุกคนไม่ได้มีความกังวลอะไร”
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า สว. 100 กว่าคน ไปยื่นเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พญ.เกศกมล กล่าวว่า ก็ต้องรอดู พร้อมย้ำว่า พวกเราทำตามกระบวนการตามกฎหมาย และทำตามสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ไม่อยากให้ทุกคนต้องกังวล แต่ตนจะเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ไปตรวจสอบหรือไม่นั้น ขอให้สื่อมวลชนไปลองตรวจสอบดู