“สมศักดิ์” ขอพยาบาลช่วยลดผู้ป่วย NCDs ลดงานหนักให้บุคลากร ย้ำไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยมากกว่านี้ ชี้ช่องทางทำเงินให้พยาบาลวัยเกษียณ เป็นผู้ประกอบการเปิดคลินิกนวดไทย
วันนี้ (19 มี.ค. 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากที่ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภาการพยาบาลซึ่งมีประจำทุกเดือน โดยได้พูดถึงแผนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ เฉพาะพยาบาลจะเพิ่มอีก 1.2 แสนคน ในระยะเวลา 10 ปี จึงจะผลิตได้ครบตามเป้าหมาย ถ้ามองไปข้างหน้าอีก 10 ปี จะมีคนป่วยเพิ่มอีกเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ก็มีตัวเลขการเข้าโรงพยาบาลประมาณ 304 ล้านครั้งต่อปี ดังนั้นผลิตพยาบาล 1.2 แสนคนก็ไม่พออยู่ดี คงต้องทำแผนใหม่เพื่อแก้ปัญหา นอกจากนี้เมื่อดูงบประมาณในการใช้รักษาผู้ป่วย อย่างโรค NCDs ใช้ 79,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 52 ของงบฯ สปสช. ดังนั้น เมื่อเรามีพยาบาลทั้งประเทศประมาณ 2 แสนคน ก็น่าจะสามารถอธิบายคนไข้ให้เข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง ให้ลดการเจ็บป่วยจากโรค NCDs ลงได้ ถ้าให้หมอพูดอธิบายภาษาหมอเข้าใจยาก แต่พยาบาลจะใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากกว่า
“ต้องให้พยาบาลเป็นกลไกหลัก ขอให้ช่วยกัน ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยมากกว่านี้ เพราะโรค NCDs มีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล 130 ล้านครั้ง จากทั้งหมดที่มีคนป่วยเข้า 304 ล้านครั้ง จะเห็นว่าจำนวนการเข้าโรงพยาบาลไม่ถึงครึ่ง แต่ใช้งบประมาณเกินครึ่งเลยทีเดียว และผมเห็นว่าสภาการพยาบาลก็มีความเข้มแข็งมาก ที่จะช่วยผลักดันเรื่องนี้ แนวทางสำคัญคือขอให้พยาบาลช่วยเรื่องโรคอ้วน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการกิน อย่ากินแป้ง น้ำตาลมาก ต้องลดปริมาณลงโดยเฉพาะกลุ่มที่ใกล้ป่วย ฝากเรื่อง NCDs จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องปรับแผนเพิ่มบุคลากรในระหว่างทางอีก” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้แนะนำพยาบาลที่เกษียณอายุ ที่ยังมีเรี่ยวแรงทำงาน แล้วอยากเป็นผู้ประกอบการ ให้ไปลองคิดกันดูเรื่องการเปิดคลินิกนวดไทย ใครสนใจเข้าสู่วงการเป็นไปได้ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนเต็มที่ทั้งนวดและยาสมุนไพรไทย ตนได้ของบประมาณเพิ่มเติมจากเดิมปีงบประมาณนี้จะได้ 1,000 ล้านบาท แต่ในชั้นแปรญัตติขอเพิ่มได้อีก 500 ล้านบาน เป็น 1,500 ล้านบาท ปีงบประมาณหน้าขออีก 3,000 ล้านบาท และเรื่องการนวดได้สั่งการให้เพิ่มหมอนวดเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านนี้ และให้เพิ่มศักยภาพหมอนวดใน 7 กลุ่มอาการรักษาโรค จะได้เพิ่มรายได้ให้หมอนวด พบว่ามีมูลค่าในตลาดสูงถึง 1.9 แสนล้านบาทด้วย