วันนี้(19 มี.ค.)นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมกับสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชมรมตาดีกา ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา เนื่องจากโรงเรียนตาดีกา จัดตั้งขึ้นโดยมัสยิดต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดการเรียนการสอนความรู้พื้นฐานด้านศาสนาให้กับเด็ก แต่ปัจจุบันมีปัญหาขาดความพร้อมในด้านบุคลากร ด้านสถานที่ และด้านสื่อการเรียนการสอน ต่อมาจังหวัดสตูลได้มีหนังสือสอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่าจะสามารถสนับสนุนงบประมาณให้กับมัสยิด เพื่อพัฒนาโรงเรียนตาดีกาหรือโรงเรียนปอเนาะได้หรือไม่
นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ตอบข้อหารือว่า องค์กรท้องถิ่นอาจสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนเป็นค่าอาหาร ค่าจ้างครูผู้สอนได้ตามระเบียบที่ได้กำหนดให้องค์กรท้องถิ่น โดยผู้ขอรับสนับสนุนต้องเป็นมัสยิดที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ตนจึงได้มีหนังสือขอนำคณะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอนำประธานชมรมโรงเรียนตาดีกา จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบเพื่อให้กระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนการตอบรับข้อหารือ เป็นการสร้างความเข้าใจในวิธีปฏิบัติและวิธีดำเนินการให้ครอบคลุมทุกจังหวัดชายแดนใต้
“โดยมีคำถามว่า หน่วยงานตรวจสอบมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินงานอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ และยังมีองค์กรท้องถิ่นที่ยังไม่เข้าใจการดำเนินการ เนื่องจากเป็นเพียงการตอบข้อหารือของจังหวัดสตูล ควรมีวาระการขยายผลเพื่อความชัดเจน เนื่องจากเห็นว่า ปัญหาการยกระดับการเรียนการสอนด้านศาสนาให้มีมาตรฐานและถูกต้อง เป็นสิ่งที่ชาวมุสลิมมีความต้องการ“ นายคอซีย์ กล่าว
นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า ตนขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จัดเวทีประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนตาดีกา โดยมีผู้เข้าร่วมรับทราบแนวทางดำเนินการที่ถูกต้องประกอบด้วยผู้บริหารท้องถิ่น ปลัดองค์กรท้องถิ่น ผู้อำนวยการกองการศึกษา ชมรมตาดีกา และองค์กรท้องถิ่นชายแดนใต้ หวังว่าการพัฒนาการศึกษาที่ดีต่อลูกหลานมุสลิมจะเป็นการพัฒนาความเจริญที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ดีต่อชายแดนใต้