xs
xsm
sm
md
lg

สว.สำรองบุก กกต.อีกรอบ จี้พักงาน “เลขาฯ แสวง” ละเว้นหน้าที่ ตรวจสอบล่าช้า ไร้ความสุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่ม สว.สำรองบุก กกต.อีกรอบ เรียกร้องให้พักงาน “แสวง บุญมี” เลขาฯ กกต.ฐานละเว้นหน้าที่ ตรวจสอบทุจริตล่าช้า ไร้ความสุจริต


วันนี้ (19 มี.ค.) กลุ่ม สว.สำรอง ประมาณ 30 คน นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่น จดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ กกต. โดยนายธนวัฒน์ ศรีสุข สว.สำรอง กล่าวว่า วันนี้กลุ่ม สว.สำรอง ได้มายื่นจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 กรณีที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้งได้กล่าวหาว่านายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ในการห้ามไม่ให้นำสมุด สว. 3 ที่มีผู้จดโพย หรือใบสั่ง หมายเลขที่มีการเลือกในวันเลือกตั้ง สว.ระดับประเทศ ซึ่งเป็นการเตรียมการทำมาจากผู้สมัครหลายกลุ่มหลายๆ คน ในลักษณะไม่สุจริตและเที่ยงธรรมในการเลือก แต่นายแสวงกลับแจ้งว่า "ถึงแม้รู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เขาก็คิดวางแผนการทำมาแบบนี้แหละปล่อยให้เขานำ สว.3 เข้าไปในคูหาเลือกในรอบไขว้ได้"

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่าถือว่าเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่อย่างยิ่ง นายแสวงจะต้องปกป้องหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีการร้องเรียนและตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่คืบหน้าถึงแม้ผู้ตรวจการเลือกตั้งจะได้มีการแจ้งต่อนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.โดยตรง เราจึงมองเห็นว่าอาจเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทั้ง กกต.และเลขาธิการ กกต.ในการปกปิดเรื่องราวต่างๆ โดยไม่มีการตรวจสอบให้ชัดเจน จึงขอให้นายแสวงมีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และทำการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ฉบับที่ 2 สว.สำรองได้ร้องขอให้มีการรวมสำนวนการสืบสวนไต่สวนที่เกี่ยวข้องกับการร้องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยใช้โพยหรือใบสั่ง ที่ไม่สุจริตที่อาจมีหลายสำนวนเป็นสำนวนเดียวกัน และมีการแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวนเป็นชุดเดียวกันมีผู้ชำนาญการสอบสวนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันป้องกันแลปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพื่อที่จะได้พิจารณาเรื่องราวต่างๆ ในการฮั้วหรือจัดทำโพย (ใบสั่ง) การเลือก สว.ที่ไม่สุจริตเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงได้อย่างครอบคลุม

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอให้นำพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ดีเอสไอ ได้มีการสืบสวนและรวบรวมไว้แล้วเป็นจำนวนมากมาประกอบในสำนวน กับพยานหลักฐานที่สำนักงาน กกต.ได้มีไว้ส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วม ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือศรัทธาให้กับสาธารณชนและสังคมได้ นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องขอให้มีการเปิดหีบบัตรเลือกสว. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ในรอบประเทศ ซึ่งเก็บไว้จำนวน 40 กล่อง อันเป็นวัตถุพยานสำคัญรายการหนึ่ง มายืนยันว่ามีการลงคะแนนตามใบสั่งให้เกิดพยานหลักฐานในเชิงประจักษ์เพื่อให้สังคมได้เห็น และตัดสินร่วมกันว่าเป็นไปด้วยความสุขเที่ยงธรรมหรือไม่ประการใด


ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง กล่าวว่า จุดประสงค์จริงของกลุ่ม สว. สำรองที่มาในวันนี้ คือเราต้องการคำตอบว่าทาง กกต.ได้ดำเนินการกับนายแสวงแล้วหรือไม่ เพราะความล่าช้าในการตรวจสอบอยู่ที่นายแสวง และควรที่จะพิจารณาตัวเองว่าเป็นปัญหาของ กกต. และ กกต. ทั้งหมดที่เป็นผู้บังคับบัญชาปกครองดูแลนายแสวงอยู่ ควรที่จะต้องทบทวนว่าควรที่จะให้นายแสวงขับเคลื่อนองค์กรนี้ต่อไปหรือไม่

เมื่อถามอีกว่าหลังจากนี้หากไม่มีการดำเนินการหรือความคืบหน้าจะทำอย่างไร พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เราได้มีการวางมาตรการไว้อยู่แล้ว โดยกลุ่ม สว. สำรองได้มีความเห็นว่า นายแสวงมีพฤติการณ์นอกจากจะผิดในเรื่องของคดีวินัยแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 32 โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้ง ให้เป็นไปโดยสุจริต หากมีการหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นไปตามกฏหมายจะมีความผิด โดยช่วงบ่ายของวันนี้จะไปร้องทุกข์ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

เมื่อถามอีกว่าหาก กกต. มีการทำงานล่าช้าจะมีการร้องเรียน กกต.โดยตรงหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ปัจจุบันเราให้โอกาสอยู่ เรายอมรับว่ากระบวนการตรวจสอบไต่สวนสืบสวนในเรื่องของการเลือก สว.นั้น หน่วยงานที่ต้องตรวจสอบหลักคือ กกต. และไม่มีใครแย่งอำนาจได้ เพราะฉะนั้น กกต.จะไม่สามารถตรวจสอบการทำงานไปเรื่อย ๆ แบบนี้ไม่ได้

เมื่อถามอีกว่าหากให้นายแสวงพักการปฎิบัติหน้าที่จะทำให้การทำงานในการตรวจสอบมีปัญหาหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีปัญหา เลขาธิการ กกต. ทุกคน เมื่อได้รับมอบหมายก็จะมีอำนาจเต็มที่เหมือนกัน หากมีการประกาศหยุดการปฎิบัติหน้าที่นายแสวงไป และทาง กกต.ลงความเห็นว่าให้มีคณะกรรมการบุคคลหนึ่ง รักษาการเลขาธิการ กกต.แทน ก็สามารถใช้อำนาจตรวจสอบได้โดยสมบูรณ์ เพียงแต่ว่าช่วยกันกรองให้เลือกบุคคลที่ดีและสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ของกกต.ให้ได้

เมื่อถามต่อว่ากรณีที่ กกต.แต่งตั้งดีเอสไอร่วมเป็นกรรมการสืบสวนคดีฮั้วเลือก สว. พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณทางกกต. ที่มีการรวมสำนวนการสอบสวนเข้าไป เพราะการฮั้วเลือก สว. เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และสัมพันธ์กันไปหมด หากใช้วิธีเดิมของกกต. ก็จะทำให้พยานหลักฐานไม่เชื่อมกันและนำไปสู่การยกคำร้องได้โดยง่าย แต่ตนพอใจในระดับหนึ่งไม่ได้พอใจทั้งหมด เพราะตามจริงสิ่งที่เราได้ขอไปคือให้มีการตั้งพนักงานสืบสวนไต่สวนที่เป็นทั้งของกกต.ในส่วนของการเป็นเจ้าภาพการตรวจสอบ และทางดีเอสไอเป็นในส่วนของตำรวจ ย้ำว่าหลังจากนี้ไม่ควรที่จะใช้เวลาการตรวจสอบมาก เพราะข้อมูลรวมทั้งพยานหลักฐานต่าง ๆ มีหมดแล้ว โดยมีทั้งในส่วนของกกต.และดีเอสไอ หากตั้งใจในการตรวจสอบจริง ระยะเวลาในการตรวจสอบน่าจะประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จ


กำลังโหลดความคิดเห็น