ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “อนุทิน” มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก รองนายกฯ-รมว.มหาดไทย ที่ต้องสงสัยว่ามีไว้ทำไม !?
ฟัง“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามนักข่าวที่ถามถึงการถูก “สนธิ ลิ้มทองกุล” วิจารณ์การทำงานในเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียว” ที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่า “เสี่ยหนู” รักษามาตรฐานตัวเองได้ดีไม่มีตก
นั่นคือ ถามวัวตอบม้า! มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก
ก่อนอื่น “สนธิ” ถาม “อนุทิน” ในฐานะรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบกรณีจีนเทา และเหล่ามิจฯต่างด้าว ยั้วเยี้ย เต็มเมืองแม่สอด ฝ่ายปกครองอย่างมหาดไทย เคยทำหรือมีผลงานในการจัดการ-รับผิดชอบอย่างไร หรือทำเป็นอย่างเดียว คือ โก้งโค้งหัวแทบจรดพื้น และยกมือไหว้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงเท่านั้น
ตามข่าว “อนุทิน” ตอบว่า ไม่ได้มองอะไรเลยในเรื่องนี้ เพราะก็ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ อยู่ที่ไหนก็ทำงานเต็มที่ ก็ต้องดูว่าแล้วยังไง สมัยที่เป็นนักธุรกิจ ก็ทำกิจการเจริญรุ่งเรืองดีมาโดยลำดับ สมัยมาเป็นพรรคการเมือง จากพรรคเล็กๆก็เติบโตขึ้นมาจนตอนนี้ก็เปลี่ยนผ่านมาอีกรุ่นหนึ่งแล้ว พรรคก็มีความมั่นคง ที่ผู้สื่อข่าวมาสัมภาษณ์อยู่ทุกวันนี้ ก็แสดงว่า พรรคมีเรื่องที่น่าสนใจของผู้สื่อข่าว ทุกอย่างก็เป็นผลงาน และเป็นสิ่งที่ทำสำเร็จ
“อนุทิน” กล่าวต่อว่า คนที่ไม่ปรารถนาดี หรือคนที่ไม่ชอบ ก็มีสิทธิที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะกิจการที่ผมทำก็เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด เทียบกับคนที่วิพากษ์วิจารณ์ผม กิจการเขาเป็นอย่างไรบ้าง ลองไปดูสิ
เมื่อถามว่า ไม่ได้สนใจเลยใช่หรือไม่ เพราะมีการพาดพิงแรงขนาดนี้ “อนุทิน” ถึงกับร้องโอ้โห... ก่อนตอบว่า เราทำอะไรเรารู้อยู่ตัวเอง ถ้าเราไม่ได้ทำอย่างที่เขาว่า ก็ไม่ต้องไปทำอะไร อาจจะมีหงุดหงิดบ้าง ก็ต้องตัดออกไป ทำอะไรไม่ได้ “ของแค่นี้ให้ไปฟ้องหรือ ไม่เอาหรอก เสียค่าทนาย”
นี่คือคำตอบของ “อนุทิน” ที่ดูคำต่อคำก็ไม่มีคำตอบให้ “สนธิ” ว่าเรื่องแม่สอด มหาดไทยทำอะไร มีผลงานอย่างไร !?
“สนธิ” ในสถานะสื่อ และ “อนุทิน” เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรี ถือเป็นบุคคลสาธารณะ การถูกตั้งคำถามด้วยสงสัยและวิพากษ์ ย่อมอยู่ในวิสัย
ยิ่งถามเรื่องชาติและประชาชน ไม่มีเรื่องบุคคล หรือส่วนตัวแม้แต่น้อย แทนที่ “อนุทิน” จะแจกแจงผลงาน กลับพูดจาโอ้อวด ทำธุรกิจเจริญรุ่งเรือง และทำพรรคภูมิใจไทยเติบโต ซึ่งไม่เกี่ยวกับคำถามเรื่องผลงานหรือปัญหาเรื่องที่แม่สอดเลย
คนฟังๆ แล้วก็ปลง และงงในคำตอบ “อนุทิน” จะพูดถึงธุรกิจและพรรคเพื่อ !?
นี่สะท้อนถึงวุฒิภาวะของคนระดับรองนายกฯและ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเสมอ!
เรื่องการทำธุรกิจของ “ครอบครัวชาญวีรกูล” ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นธุรกิจที่เกาะเกี่ยวแอบอิงอยู่กับการเมือง จากรุ่นพ่อ มาสู่รุ่นลูก
หากบอกว่าเจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จด้วยความสามารถตัวเอง ถามว่าพูดจาอะไรไม่อายชาวบ้านบ้างหรือ !?
ที่ “อนุทิน” ย้อนถาม “สนธิ” ว่าธุรกิจที่ทำเป็นอย่างไร ?
แน่นอนว่า หากวัดธุรกิจสื่อด้วยตัวเงินเปรียบเทียบกับธุรกิจรับเหมาประมูล-สัมปทานรัฐนั้นไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ “สนธิ” ที่ยึดหลักการความจริงมีหนึ่งเดียว ก็ทำหน้าที่วิชาชีพสื่อแบบมีศักดิ์ศรี "เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน" ผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้
นี่เป็นเรื่องของ "ศักดิ์ศรี" ที่อนุทินไม่มีวันเข้าใจ!
ส่วนเรื่องการทำพรรคการเมืองให้เติบโต ซึ่งถ้า “อนุทิน” หมายถึงปริมาณการมีทั้ง สส.และสว.ในสภา หมายถึงอำนาจที่ได้มาท่ามกลางข้อครหา "ฮั้วเลือกตั้ง" ก็เอาที่อนุทินสบายใจ คุยได้คุยไป
“อนุทิน” คิดเอง ตอบเอง เคยถามประชาชนบ้างหรือไม่ว่า เขาเห็นแบบที่อนุทินรู้สึกหรือเปล่า?
ที่สำคัญประชาชนวันนี้ก็ยังสงสัย “พรรคภูมิใจไทย”ทำประโยชน์อะไรให้กับบ้านเมืองบ้าง ?
เช่นเดียวกับที่สงสัยว่า “อนุทิน” คนที่เป็นรองนายกฯและรมว.มหาดไทย นี่มีไว้ทำไม?
++ พรรคส้มการละคร ยอมขีดฆ่าชื่อ “ทักษิณ” และคำว่า “ผู้เป็นบิดา” เปลี่ยนเป็น “คนในครอบครัว”
หลังจากเล่นแง่ ก่อนเปิดศึกซักฟอก ทั้งพรรคส้ม พรรคแดง ก็เล่นบท “ดื้อเจอด้าน” เรียกน้ำย่อยกันมาประมาณ 2 สัปดาห์
ในที่สุด “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ยอมแก้ไขข้อความในญัตติ ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์ “ แพทองธาร ชินวัตร
โดยยอมตัดชื่อ "ทักษิณ" และคำว่า "ผู้เป็นบิดา" ออก แล้วเปลี่ยนเป็น "บุคคลในครอบครัว" ก่อนนำกลับไปยื่นให้ “ประธานวันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ถือว่าเป็นคำสุภาพอย่างผิดความคาดหมายของบรรดา “ติ่งส้ม” ที่ลุ้นคำว่า “สทร.”
หรือจะเป็นเพราะ การให้สัมภาษณ์ของ “ทักษิณ” เมื่อ 2 วันก่อนหน้า เหมือน “ตบโชว์” ว่า พรรคคนรุ่นใหม่ แต่ทำตัวน่ารำคาญ และยังบอกว่า ถ้าจะอภิปรายเรื่อง “นั่งร้าน” ได้ไปถามคนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือยัง
ประมาณว่า หากจะอภิปรายว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นแค่นั่งร้านให้ “ทักษิณ” เป็นนายกฯ ตัวจริง... พรรคประชาชนก็เป็นแค่ นั่งร้านให้กับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ซึ่งเป็นเจ้าของพรรคตัวจริงเช่นกัน
ความกร้าวของพลพรรคส้ม เลยดูจะหงอยๆ ลงหน่อย !!
เมื่อวานนี้ “ทักษิณ” ยังไปให้สัมภาษณ์ ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมสภาฯ เปิดโอกาสให้ นายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี สามารถพาคนนอกเข้าไปชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
“ทักษิณ” ย้อนถามกลับว่า แล้วมันเหมาะสมหรือเปล่าล่ะ อยากอภิปรายก็อภิปรายไป ไม่เห็นต้องไปเดือดร้อน ไม่มีการตั้งวอร์รูมอะไร เพราะวอร์รูมก็อยู่ติดกับตัวนี่แหล่ะ ไปที่ไหน ก็วอร์รูมที่นั่น หากไม่เกินเลยกันมากเกินไปก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องการฟ้องร้อง ขอกันกินยังมากเสียกว่า
ส่วนการเก็งข้อสอบเกี่ยวกับการอภิปรายที่จะพาดพิงมาถึง “ทักษิณ” เรื่องครอบครอง ครอบงำนั้น เชื่อว่า “นายกฯอิ๊งค์” ตอบได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องชั้น 14 เหตุการณ์เริ่มแรกที่ไปอยู่ รพ.ตำรวจ ก็เกิดในสมัย “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับ “นายกฯอิ๊งค์”
เรื่องการดำเนินนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัล สินค้าเกษตรตกต่ำ คอลเซนเตอร์... เรื่องพวกนี้ก็ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เป็นคนลุกขึ้นมาตอบ
“นายกฯอิ๊งค์” อาจจะต้องชี้แจงเรื่องงบ “ซอฟต์เพาเวอร์” ที่ละเลงไป แต่ผลงานยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นคอขาด บาดตาย
สำหรับการโหวตหลังการอภิปราย ยิ่งไม่กังวล แม้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย จะมีปัญหากระทบกระทั่งกันมาตลอด มีการเคลียร์กันไปหลายรอบแล้ว เหมือน “ละครตบจูบ ตบจูบ” ซึ่ง “ทักษิณ” ก็บอกว่า “ไม่เป็นไร มันก็ออกรสชาติดีนะ มีรสชาติดี"
เมื่อความสัมพันธ์ ระหว่าง 3 พรรคใหญ่ อย่าง “เพื่อไทย -ประชาชน-ภูมิใจไทย” มีท่าทีออกมาในแนวนี้
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” จะเป็น “การละคร” หรือเปล่า อีกไม่กี่วันได้รู้กัน