“ธีระชัย” ติงแนวคิด “ทักษิณ” ซื้อหนี้คืนจากประชาชนทั้งประเทศ มองแค่ผิวเผิน ไม่ทะลุถึงแก่น แค่ย้ายปัญหาจากที่หนึ่งไปไว้อีกที่หนึ่ง เปลี่ยนหนี้จากธนาคารพาณิชย์ มาเป็นหนี้ของประชาชนทั้งประเทศ เป็นภาระยาวไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
จากกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ตอนหนึ่ง ว่า มีแนวคิดจะแก้ปัญหาหนี้ให้คนไทยทั้งประเทศ โดยการซื้อหนี้จากประชาชน และลบข้อมูลออกจากเครดิตบูโร เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ นั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 18.57 น.วันที่ 17 มีนาคม 2568 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล แสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า แก้ปัญหาหนี้ผิดวิธี ข่าวเกี่ยวกับอดีตนายกทักษิณ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 “นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนมีหนี้จำนวนมาก ซึ่งจะต้องยกหนี้ออกจากเครดิตบูโรให้ทั้งหมด โดยไม่ต้องชำระ เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่รัฐแก้ปัญหาให้ โดยไม่ใช้เงินรัฐสักบาท จริงๆ พรรคเพื่อไทยจะออกเหรียญดิจิทัล แจกให้ประชาชน ซึ่งเหรียญจะอยู่ในระบบ แล้วรัฐบาลจะเติมเงินสนับสนุน แต่แบงก์ชาติบอกว่าใช้ไม่ได้ ต้องมีเงินทุนมาหนุนหลัง จึงยุติ เพราะกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายคนมองไม่ออก
นายทักษิณ ย้ำว่า ถ้าทำได้ (เงินดิจิทัล) จะช่วยให้ฟื้นเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันนี้ถ้าเทียบเป็นบ้าน ก็ต้องยอมรับว่า ฐานราก คานคอดิน มันพัง ส่วนเศรษฐกิจตกต่ำยุค “ต้มยำกุ้ง” เป็นแค่หลังคาพัง แต่เราก็ต้องซ่อม เพราะไม่สามารถสร้างหลังใหม่ได้ เพียงต้องใช้เทคโนโลยีมาซ่อมให้ทัน”
“ผมตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดที่จะออกเหรียญดิจิทัลแจกประชาชน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น ถ้ามองผิวเผิน จะดูเหมือนสวยหรู จะดูคล้ายเป็นการใช้เทคโนโลยีเนรมิตเงิน ออกมาจากอากาศธาตุ จะเป็นมาตรการที่น่าตื่นเต้น ที่จะแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างหมดจด ประชาชนก็จะเอาเหรียญดิจิทัลที่ได้รับแจกไปชำระหนี้ที่ธนาคารพาณิชย์ และล้างประวัติที่เครดิตบูโร เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่
“แนวคิดนี้เข้าใจไปว่า รัฐสามารถเอื้อมมือเข้าไปสนับสนุนแก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท แต่ถ้ามองอย่างเข้าใจระบบการเงิน จะต้องมองให้ลึกซึ้งกว่าแค่ผิวเผิน การแจกเหรียญดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนนำไปชำระหนี้นั้น ถ้าเป็นเหรียญที่ออกโดยคณะรัฐมนตรี ในฐานะส่วนตัว แบบนี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท แต่คาดเดาได้ว่า ธนาคารพาณิชย์จะไม่เชื่อเครดิตในเหรียญดังกล่าว ยกเว้นเหรียญที่ออกโดยครอบครัวของนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งเป็นผู้มีฐานะ
“แต่จะให้ความเชื่อถือได้ ก็ต่อเมื่อมีกลไกตามกฎหมายที่ธนาคารพาณิชย์จะสามารถบังคับให้คณะรัฐมนตรีผู้ออกเหรียญ จะต้องควักกระเป๋าชำระเงินตามเหรียญเหล่านั้น เมื่อครบกำหนด
“ส่วนกรณีเป็นการแจกเหรียญดิจิทัล ที่ออกโดยรัฐบาลไทย เพื่อให้ประชาชนนำไปชำระหนี้นั้น ขอเรียนว่า มีสภาพไม่ต่างจากการเพิ่มหนี้สาธารณะ
“อธิบายแบบง่ายๆ คือ โอนหนี้ธนาคารพาณิชย์ของประชาชน ที่มีปัญหาไม่สามารถคืนหนี้ มาเป็นหนี้ของประชาชนผู้เสียภาษีทั้งประเทศ
“ผมจึงจะขอแนะนำ อย่ามองนโยบายแต่เพียงผิวเผิน จะต้องมองให้ทะลุถึงแก่น
“เมื่อทำเช่นนี้ จะเห็นได้ง่ายกว่า ข้อเสนอแนวคิดนี้ เพียงแต่ย้ายปัญหา จากที่แห่งหนึ่ง เอาไปวางไว้อีกแห่งหนึ่ง
“เพียงแต่ย้ายปัญหา จากประชาชนกลุ่มเล็ก ที่เป็น NPL ไปเป็นภาระของคนทั้งประเทศ ยาวไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน” นายธีระชัยระบุ