อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจฯ ยื่นศาลรธน.เอาผิดกกต. ชี้เลือกสว.ไม่สุจริต-ปล่อยฮั้ว-ละเลยตรวจสอบคุณสมบัติ เรียกร้องให้การเลือกสว.เป็นโมฆะ พร้อมขอให้สว.ชุดปัจจุบันหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เตรียมยื่นยุบพรรคการเมืองที่แทรกแซงวุฒิสภา
วันนี้ (12 มี.ค.)นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ทำให้กระบวนการได้มาซึ่งสว.ไม่เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมนายณฐพร กล่าวว่า วันนี้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกสว.ครั้งที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 5 ซึ่งมาตราดังกล่าว คือการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไม่มีผลบังคับใช้ ฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าตัดคำว่าไม่มีผลบังคับใช้ นั่นคือจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น โดยประเด็นที่ยื่นวันนี้คือยื่นข้อเท็จจริงการกระทำของกกต. ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คือ 1.การจัดเลือกสว. ไม่สุจริต มีการฮั้ว การจ้างลงคะแนน ข้อมูลต่างๆกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับสอบสวนตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2567 แล้ว
2 การปฏิบัติหน้าที่ของกกต. มิชอบด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาทั้งสว. หมวด 4 กรณีการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เช่น การไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ หรือให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติมาลงสมัคร ซึ่งการให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติมาลงคะแนนให้ มีผลกระทบถึงการเลือกสว.ระดับประเทศ การตรวจคุณสมบัติของสว.ครั้งนี้ จึงมีความสำคัญตามมาตรา 107 มาตรา108 ทำให้ได้คนที่ตรงตามที่รัฐธรรมนูญต้องการ มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาแม่ค้าขายกล้วยแขก หรือหมอนวดมาเป็นสว. และกกต.เองต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบ แต่ผ่านมา 1 ปีแล้วกลับไม่ดำเนินการใดๆ
3. สว.ชุดนี้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ก็มีการกระทำที่เห็นได้ชัดว่า อยู่ในการควบคุมของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนมีคลิปเสียงครับของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พี่คุยกับผู้สมัครสว.รายหนึ่งในการต่อรอง ว่า "จะให้ 50,000 บาท แต่หากจะเข้ามาเป็นสมาชิกจะให้เอาเงินมาบริจาคพรรค 200,000บาท" ดังนั้นความเชื่อมโยงของสว.ชุดนี้ กับพรรคภูมิใจไทยเรามีรายละเอียดพอสมควรว่าเชื่อมโยงกับใครบ้าง เช่น นายมงคล สุระสัจจะ ประธานสว. อดีตเคยเป็นผู้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ และได้รับการสนับสนุนจากนายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล ให้เป็นอธิบดีกรมการปกครอง และเสนอให้เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ตนมีอยู่ในสำนวนที่มายื่น
4 การปฏิบัติหน้าที่ของกกต.ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเลือกตั้งอย่างร้ายแรง เพราะกกต.ต้องเป็นกลางทางการเมือง แต่กลับปล่อยให้คนอย่างพญ. เกศกมล เปลี่ยนสมัย กรอกข้อมูลอันเป็นเท็จลงสมัครสว. แล้วไม่มีการดำเนินการใดๆมา 7 เดือน ปล่อยให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติ ไปเลือกคนที่มีคุณสมบัติออกไป ทำให้เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้
นายณฐพร กล่าวว่า สว.ชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ คือ สว.ต้องไม่อยู่ในอานัสของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ปรากฏว่าสว.ชุดนี้ 140 กว่าคน มีมติเหมือนกันเกือบจบทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนทั้ง 140 กว่าคน จะทำเหมือนกันเช่นกรณีแต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ทราบข่าวว่าให้ไปพบกับนายเนวิน ชิดโชค แต่รองผู้ว่าไม่ไป ปรากฏว่าคะแนนเสียง 140 ไม่ลงคะแนนให้ ฉะนั้นการทำงานเช่นนี้จึงไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง และเห็นได้ชัดว่าสว. ชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ตามอิทธิพลของพรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม กกต. รู้อยู่แล้วว่ามีการฮั้วมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่กกต.กลับไม่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน แสดงว่ากกต.ปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าข้อมูลพยานหลักฐานในวันนี้ครบถ้วน ทั้งจากดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ตนจึงยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญเอาผิดกกต.ในฐานะที่จัดการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้การเลือกสว.เป็นโมฆะ และให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในระหว่างที่ศาลรับคำร้องของตนมีคำสั่งให้สว.ชุดนี้ หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายณฐพร กล่าวอีกว่า ตนไม่หยุดแค่นี้ แต่ตนจะยื่นกรณียุบพรรค กรณีที่พรรคการเมืองเข้าไปก้าวก่ายการดำเนินการเรื่องสว. โดยเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 49 กรณีล้มล้างการปกครองฯ