xs
xsm
sm
md
lg

กรมป่าไม้-สคทช. จับเข่าคุย แก้ปัญหาซื้อขายที่ดิน คทช. ในป่าสงวนฯ ออกหนังสือด่วน แจ้งตรงผู้ว่าฯ ถึงแนวปฏิบัติป้องกันเปลี่ยนมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมป่าไม้ เดินหน้า แก้ปัญหาซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน คทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เปิดวงจับเข่าคุย สคทช. แนะแนวทางปฏิบัติป้องกันซื้อขายเปลี่ยนมือ ตามาตรการในหนังสือด่วน แจ้งตรงผู้ว่าฯ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ดำเนินการ พร้อมย้ำ หากตรวจพบกระทำผิด เจอเพิกถอนแน่นอน

วันนี้ (12 มี.ค. 2568 ) เวลา 9.00 น. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ และ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหนังสือของกรมป่าไม้ ที่ ทส 1603.3/4067 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และด่วนที่สุด ที่ ทส 1603.3/4068 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ถึงแนวทางดำเนินการในการป้องกันมิให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือพื้นที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ อธิบดีกรมป่าไม้ และ ผอ. สคทช. ได้ร่วมกันแถลงข่าว “การแก้ปัญหาการโอนสิทธิ์ซื้อขายเปลี่ยนมือพื้นที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ” ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเข้าร่วมฟังการแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่กรมป่าไม้
นำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีราษฎรถือครองทำกินมาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในลุ่มน้ำชั้นที่ 3, 4 และ 5 ซึ่งสำรวจไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ปรากฎร่องรอยการทำประโยชน์ในภาพถ่ายทางอากาศสี Ortho Photo ปี 2545 โดยการอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินตามแนวทางที่ คทช. กำหนด ให้ราษฎรได้อยู่อาศัยทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“ที่ผ่านมา ในส่วนของการขับเคลื่อนนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน รวม 4 คณะ ประกอบด้วย คณะที่ 1) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดหาที่ดินของรัฐ ที่เหมาะสม เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณะประโยชน์ เป็นต้น นำมาดำเนินจัดการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 2) คณะอนุกรรมการจัดที่ดิน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน อธิบดีกรมที่ดิน เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนหรือที่อยู่อาศัยในลักษณะแปลงรวม 3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด และพัฒนาสาธารณูปโภคให้แก่ชุมชน และ 4) คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) มีผู้ว่าราชการ

จังหวัด เป็นประธาน หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด สหกรณ์จังหวัด เป็นเลขานุการร่วม มีอำนาจหน้าที่ขับเคลื่อนการจัดที่ดิน ทำกินให้ชุมชนในระดับจังหวัด ทั้งในด้านการจัดหาที่ดิน การจัดที่ดิน การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาสาธารณูปโภค โดยดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง”
อธิบดีกรมป่าไม้ ได้กล่าวถึงผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติว่าคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินได้กำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเป็นพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 699 พื้นที่ 65 จังหวัด เนื้อที่ 4.07 ล้านไร่ พร้อมกันนี้ จังหวัดได้ยื่นขออนุญาตเพื่อนำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 3.67 ล้านไร่ ขณะที่คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการในการอนุญาตให้ผู้ว่าราชการการจังหวัดนำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ทั้ง 3.67 ล้านไร่แล้ว โดยกรมป่าไม้ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว จำนวน 2.99 ล้านไร่ และคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน ได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้แก่ราษฎรแล้ว 85,335 ราย 107,454 แปลง เนื้อที่ 602,501 ไร่

“สำหรับการป้องกันมิให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือพื้นที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทางกรมป่าไม้ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ทส 1603.3/4067 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และด่วนที่สุด ที่ ทส 1603.3/4068 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ให้ดำเนินการใน 3 แนวทางสำคัญ คือ 1) เร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนการจัดที่ดินให้เสร็จสิ้น เพื่อป้องกันและควบคุมมิให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยให้ทำการตรวจสอบคัดกรองผู้ที่จะได้รับการจัดที่ดินตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 2) กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดินอย่างสม่ำเสมอ และ 3) แจ้งผู้ปกครองท้องที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล มิให้ มีการซื้อขายโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือ หากตรวจพบมีการกระทำผิดเงื่อนไข ข้อกำหนดการใช้ที่ดิน ให้แจ้ง คทช.จังหวัด พิจารณายกเลิกเพิกถอนการจัดที่ดินของราษฎรรายนั้น ๆ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น