xs
xsm
sm
md
lg

"วิโรจน์" ปั่น18 กระบวนท่าวรยุทธ์ จาก “โรมรันจันทร์ส่องหล้า” ไป จนถึง “มังกรอดสู สมสู่งูดิน” งานนี้จะสมราคา หรือไม่เดี๋ยวรู้ ! ** เพราะ“แม้ว” สทร. ไม่ยอมให้แตะ...“วันนอร์” จึงต้องออกมาเข้ม ถ้าฝ่ายค้านไม่ตัดชื่อทักษิณออก ก็ไม่ต้องอภิปราย!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วิโรจน์ ลักขณาอดิศร - แพทองธาร ชินวัตร  - ทักษิณ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว


++  "วิโรจน์" ปั่น18 กระบวนท่าวรยุทธ์ จาก “โรมรันจันทร์ส่องหล้า” ไป จนถึง “มังกรอดสู สมสู่งูดิน” งานนี้จะสมราคา หรือไม่เดี๋ยวรู้ !

ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี "อุ๊งอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร จะเริ่มต้นขึ้น ก็ดูความเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน ชั่วโมงนี้ส่งคอนเทนต์ เน้นเอนเตอร์เทน บิ้วอารมณ์คนดูไว้ก่อน

เมื่อ "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กด้วยข้อความประหนึ่ง "จอมยุทธ์" ว่ากำลังเดินลมปราณ ฝึกวรยุทธ์ฝ่ามือพิชิตมังกร 18 ท่าอยู่ น่าจะได้ใช้ประลองยุทธเร็วๆนี้

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
กระบวนท่าที่ 1 “มังกรโรมรันจันทร์ส่องหล้า”

จากนั้น “วิโรจน์” ก็มาขยายความในช่องแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า กระบวนท่าที่ 1(พื้นฐาน) = มังกรโรมรันจันทร์ส่องหล้า กระบวนท่าที่ 2 = มังกรหมดใจไร้สำนึก กระบวนท่าที่ 3 = มังกรซุกสมบัติ กระบวนท่าที่ 4 = มังกรรุกป่า กระบวนท่าที่ 5 = มังกรกงสีอิ่มหมีทั้งตระกูล

กระบวนท่าที่ 6 = มังกรตระบัดสัตย์ กระบวนท่าที่ 7 = มังกรหมอบสยบยอม กระบวนท่าที่ 8 = มังกรแฝงแทงข้างหลัง กระบวนท่าที่ 9 = มังกรฝ่อมีพ่อหนุน กระบวนท่าที่ 10 = ผลาญงบสยบมังกร กระบวนท่าที่ 11 = มังกรสมคบซบจีนเทา กระบวนท่าที่ 12 = มังกรไฟฟ้าสูบเลือดคน

กระบวนท่าที่ 13 = มังกรป่วยปลอมไม่ยอมเลี้ยงหลาน กระบวนท่าที่ 14 = มังกรดีลเลื้อยกลับรู กระบวนท่าที่ 15 = บริวารบ้านใหญ่ซุกไข่มังกร กระบวนท่าที่ 16 = มังกรกินเรียบเอาเปรียบชาวบ้าน กระบวนท่าที่ 17 = มังกรลวงทวงคืนทรัพย์ กระบวนท่าที่ 18 = มังกรอดสู สมสู่งูดิน

ปรากฏว่า โพสต์นี้ของ “วิโรจน์” ถูกอกถูกใจ พวก FC ส้มเข้ามาแสดงความเห็นกันคึกครื้น ต่างสนับสนุนให้ วิโรจน์ ใช้กระบวนท่าต่างๆ ในศึกอภิปรายนายกฯ และขอให้เพิ่มเติมท่า "ไม้เท้าตีสุนัข" ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบรับ FC ด้วยคำตอบว่า ไม้เท้าตีสุนัข 36 ท่า จะใช้กับพวกสมุนบริวาร ที่คอยยยกมือประท้วงแบบเติมเงิน

36 ท่า อาทิเช่น ไม้เท้าหวดสมุนสุนัข กดหัวสุนัขรับใช้ ฟาดหลังสุนัขเลียรองเท้า ชิงไม้เท้าจากปากสุนัข เอาก้อนหินปาสุนัขปากบอน ตีสุนัขจนตรอกให้ร้องเอ๋ง ตีกระหน่ำจนหางจุกตูด เคาะชามข้าวหลอกให้หมาดีใจ ไม้เท้าปราบหมาหมู่

วางยาเบื่อสุนัขอันธพาล เขี่ยแผลหมาขี้เรื้อน ตีหญ้าให้หมาตื่น เคาะกะลาให้หมาตกใจ ฯลฯ และท่าสุดท้าย "ทั่วสภาไร้สุนัข”
งานนี้ คอการเมืองผู้ชมรอดูฝีมือฝ่ายค้าน และ รอฟังฝีปากรองหัวหน้าพรรคประชาชน ว่าจะแฉอะไรให้ได้ฮือฮา

ตอนนี้เน้นฮา สาระยังไม่มีก็ไม่รู้ว่า กระบวนท่าดีเหล่านี้ ถึงเวลาใช้ออกจริง จะทีเหลว หรือ จะฝากรอยแค้น ให้อีกฝ่ายสร้างประโยชน์ให้ประชาชนเอาไว้ได้หรือไม่ ก็ต้องโปรดติดตามชม

แพทองธาร ชินวัตร
++ เพราะ“แม้ว” สทร. ไม่ยอมให้แตะ...“วันนอร์” จึงต้องออกมาเข้ม ถ้าฝ่ายค้านไม่ตัดชื่อทักษิณออก ก็ไม่ต้องอภิปราย!!

หลังจาก “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เข้ามาทำหน้าที่ยิ่งกว่าผู้กำกับ คือ อยู่ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง หลายครั้งโดดมาเป็นผู้เล่นเอง แบบไม่สนใจต่อเสียงครหา

แถมยังตั้งฉายาให้ตัวเองอีกว่า สทร. ...เสือกทุกเรื่อง!

วันมูหะมัดนอร์ มะทา
ไม่ว่าจะเป็นเวทีปาฐกถาในโรงแรมใหญ่ ตามที่ได้รับเชิญจากภาคธุรกิจสื่อ หรือเดินสายไปขึ้นเวทีปราศรัย ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ. ในหลายจังหวัด ทั้งภาคอีสาน และภาคเหนือ

ส่งที่ “ทักษิณ”พูด จะเป็นการเมืองในระดับชาติ นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลว่ากำลังจะทำอะไร มากกว่าเรื่องของท้องถิ่น แล้วบรรดารัฐมนตรี รวมทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” ก็รับลูกเอามาเดินงาน เป็นนโยบายรัฐบาล

ทั้งเรื่องการแจกเงินหมื่นผู้พิการ ผู้สูงอายุ แทนเงินดิจิทัลฯ โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การพนันออนไลน์ นี่ใช่ทั้งนั้น ... “ทักษิณ” พูดนำร่องก่อน แล้วรัฐบาลก็เดินตาม

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
เมื่อฝ่ายค้าน โดย “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” เพียงคนเดียว

“ข้อหา” ในญัตติที่ยื่นนั้น นอกจากว่า นายกฯ ขาดภาวะผู้นำ ขาดความรู้ ความสามารถ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหก หลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน ทุจริต คอร์รัปชัน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคล ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง...

ในญัตติยังระบุถึงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ว่า ... นายกฯสมัครใจ ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ...

ทักษิณ ชินวัตร
แรงไม่ต่างจากตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน แล้วยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ “รัฐบาลลุงตู่”

เมื่อ “ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์” เลขาธิการสภาฯ ได้ตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อ และเนื้อหาของญัตติเสร็จเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เสนอแฟ้มให้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภา พิจารณาบรรจุ ระเบียบวาระ
ไม่มีการตัดชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่ถือว่าเป็น “คนนอก” ออก เพราะเลขาธิการสภา เห็นว่า เป็นดุลพินิจของประธานสภา และรองประธานสภา ที่จะพิจารณา หากมีข้อกังวลในการอภิปราย

แน่นอนว่า เรื่องนี้ “ทักษิณ” ไม่ยอมให้แตะ อยู่แล้ว เพราะขืนปล่อยไป ทั้งเรื่อง “ป่วยทิพย์” ที่ชั้น 14 เรื่อง กาสิโนคอมเพล็กซ์ ทำพนันออกไลน์ โดนถล่ม ทั้งพ่อทั้งลูกแน่

“วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภา จึงต้องทำหนังสื่อด่วนที่สุด ถึง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำฝ่ายค้าน ให้ตัดชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ออก เพราะเป็นบุคคลภายนอก ที่ไม่สามารถมาชี้แจงในที่ประชุมสภาได้ หากมีการอภิปรายพาดพิง ทำให้เสียหาย
แต่ “ณัฐพงษ์” ยืนยันไม่แก้ พร้อมเตรียมทำหนังสื่อโต้แย้งกลับไป ด้วยเหตุผลว่า เรื่องนี้ เป็นสิทธิของสมาชิก ที่รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้ และรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เขียนไว้ว่าให้ประธานสภา มีอำนาจในการใช้ดุลยพินิจ ไม่บรรจุญัตติได้

“ประธานวันนอร์” จึงออกมาย้ำเสียงเข้ม ว่า ถ้าไม่แก้ไข ก็ไม่บรรจุญัตติเข้าสู่วาระการประชุม ก็ไม่ต้องอภิปรายกัน
เพราะโดยปกติ แค่กล่าวพาดพิงคนนอก ก็ห้ามอยู่แล้ว นี่เขียนเป็นญัตติ ชัดเจนยิ่งกว่ากล่าว ถ้ามีการฟ้องร้องขึ้นมา ประธานฯ ก็จะโดนก่อนใคร

ชัยมงคล ไชยรบ
“ประธานฯ บอกกลัวโดน “ทักษิณ”ฟ้อง!!

แน่นอนว่าบรรดา “องครักษ์” ต่างก็ออกมาขานรับว่า ถ้าไม่ตัดชื่อออก เวลามีการอภิปรายถึง ก็จะมีการประท้วงกันวุ่นวายในสภา ไม่เป็นอันต้องอภิปราย ประชาชนเบื่อหน่าย

ขณะที่ฝ่ายค้าน “ชัยมงคล ไชยรบ” สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าสังคมก็รับรู้ ว่าอะไรเป็นอะไร จะเอามือเดียวไปปิดฟ้า จะปิดมิดหรือ จะไปกลัวทำไมกับการอภิปราย ถ้าไม่มีความผิดอะไร จะหนีทำไม จะต้องมาพยายามปกป้องกันทำไม่ ไม่เห็นด้วยที่จะตัดชื่อ “ทักษิณ” ออก

...ถ้ามีการพูดพาดพิง หมิ่นประมาท ก็ฟ้องมาเลย เมื่อไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง จะไปกลัวทำไม เมื่อคนนอกเขาก็บอกอยู่แล้วว่า เขา สทร. ดังนั้น ควรยังมีชื่อไว้ในญัตติ

ด้าน “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ออกมาบอกว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. รีบตรวจสอบ “ประธานวันนอร์” ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ และ ขอให้ ป.ป.ช. มีหนังสือถึง ประธานสภา ให้รีบบรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 แห่งรัฐธรรมนูญ โดยเร็วด้วย

ต้องติดตามกันว่า เรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร ฝ่ายค้านจะยอมตัดชื่อ “ทักษิณ” ออกหรือไม่ ในเมื่อ “ประธานวันนอร์” ก็เสียงแข็งมาว่า ถ้าไม่ตัดก็ไม่บรรจุญัตติ ไม่ต้องอภิปราย

นี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง ที่พอจะทำให้เห็นภาพว่า ประเทศไทยยุคนี้ เวลานี้ “การเมือง” อยู่เหนือบรรทัดฐาน ของความถูกต้อง ชอบธรรม...บางครั้งยังอยู่เหนือ “กฎหมาย”เสียด้วยซ้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น