เมืองไทย 360 องศา
การออกมายอมรับของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ตัวเขาพร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ได้เข้าพบหารือกับ นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุกอย่างมีความชัดเจน ในทำนองว่า ความขัดข้องในหลายเรื่อง ในช่วงที่ผ่านมา น่าจะคลี่คลายลงไปแล้ว หรือเรียกว่า “ผลประโยชน์ลงตัว” ทั้งสองฝ่าย นั่นแหละ
และน่าสนใจก็คือ ยังเป็นการพบกันก่อนที่ฝ่ายค้านจะ “ซักฟอก” นายกรัฐมนตรี เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น โดยหาพบกันดังกล่าวมีการเปิดเผยว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมานั่นเอง
นายอนุทิน กล่าวว่า การพบกันเป็นเรื่องปกติ ไปประจำอยู่แล้ว ซึ่งตนเป็นคนชวน นายเนวินไป นัดกันวันหยุด คุยกันหลายเรื่อง คุยงาน ขอคำแนะนำท่านบ้าง ในฐานะที่ท่านเป็นผู้มีประสบการณ์ แต่เขาไม่ตอบเมื่อถูกถามว่า เป็นการเคลียร์สัญญาใจ อะไรหรือไม่
“ได้มีการหารือในทุกเรื่อง หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่เฉพาะเรื่องร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ และ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการหารือกัน เป็นการพูดคุยกัน”
เขาย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย และว่า หากเรื่องไหนที่เราไม่เห็นด้วย ก็หารือและพูดคุยกัน และหาข้อสรุปได้ทุกครั้ง อย่างเรื่องร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตอนแรกที่กระทรวงการคลังร่างออกมา บอกว่า ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการกฎหมายคนเดียว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ไปเรียนนายกรัฐมนตรี ว่า มันมีกฎหมายควบคุมอาคารความปลอดภัย นายกรัฐมนตรีรักษาการคนเดียวอาจจะหนักเกินไป ซึ่งท่านนายกฯก็เห็นด้วย จนร่างฯ ล่าสุดที่ออกมา กระทรวงมหาดไทย ก็ร่วมรักษาการด้วย
“ย้ำว่า เราก็ทำงานด้วยกัน ถ้าไม่ใช่ทีมเวิร์ก ไม่ห่วงกัน ให้ท่านรักษาการคนเดียวไปเลย ยังไงกระทรวงมหาดไทย มีบทบาทอยู่แล้วในเรื่องการพนัน แต่สปิริตการอยู่ด้วยกัน ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกัน มีอะไรจะได้แบ่งเบาภาระ ท่านนายกฯ มีภาระอย่างอื่นมากมาย จะมารู้เรื่องรายละเอียดในกฎหมายแต่ละฉบับได้อย่างไร อันนี้คือการพิสูจน์ให้เห็นว่า เราทำงานด้วยกันด้วยความห่วงใย ร่วมมือ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ เรื่องร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่กำหนดผู้เล่นต้องมีเงิน 50 ล้านบาท ถ้าเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม. ทางครม.อาจจะแย้งกับกฤษฎีกา จึงเห็นว่าควรให้สภาฯรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อแปรญัตติ หรือ กลับไปศึกษาอีกครั้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังไม่ได้บรรจุกฎหมายทั้งสองฉบับเข้า ครม. ไม่ทราบว่า ท่านจะบรรจุเข้าเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯ ไปก้าวล่วงไม่ได้”
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ในวันนั้นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ห้ามลา ห้ามขาด รัฐมนตรีทั้ง 8 คน ของพรรคภูมิใจไทย ต้องอยู่ในสภา เพื่อเตรียมข้อมูลให้พร้อม ถ้าตรงไหนที่โดนฝ่ายค้านพาดพิง จะต้องช่วยชี้แจง ไม่ได้มีกฎห้ามรัฐมนตรีชี้แจง จะไปหวังให้นายกฯ ตอบคนเดียวไม่ได้ นายกฯจะไปรู้รายละเอียดของแต่ละกระทรวงได้อย่างไร แต่หากนายกฯ มีความประสงค์ที่จะตอบเอง รัฐมนตรีทุกคนต้องเตรียมข้อมูล นำเสนอข้อมูลให้นายกฯ ซึ่งเรามีการเตรียมตัวในการสนับสนุนนายกฯ เต็มที่
ก่อนไปลงรายละเอียดและที่มาของ “ดีลลับ” คราวนี้ ก็ต้องย้ำกันก่อนว่า การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฝ่ายค้าน “ขึงพืด” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพียงคนเดียว จนทำให้มีการคาดกันล่วงหน้า ว่า หากฝ่ายค้าน “เอาจริง” จะต้องเกิดเหตุการณ์ “สยดสยอง” ในสภาอย่างแน่นอน
เพราะด้วยศักยภาพส่วนตัวที่หลายคนมองออกจากอาการที่ผ่านมา ทั้งสมญานาม “นายกฯไอแพด” หรือ “มาดามโพย” ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเธอได้เป็นอย่างดี และที่ผ่านมาก็ถูกมองว่า “หนี” การตอบกระทู้ถามในสภามาตลอด เพิ่งสัปดาห์ก่อนนี่เองที่เธอไปตอบเป็นครั้งแรก และคราวนี้ในญัตติของฝ่ายค้านยังระบุถึงการขาดวุฒิภาวะผู้นำ ไม่มีประสิทธิภาพ ปล่อยให้นายทักษิณ ชินวัตร ชักใยอยู่เบื้องหลัง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว
ดังนั้น พอคาดเดากันได้ไม่ยากว่า “ศึกซักฟอก” เที่ยวนี้ นายกฯ ต้องเป็นเป้านิ่งค่อนข้างแน่ และอย่างที่รู้กันว่า “พ่อนายกฯ” คือ นายทักษิณ ชินวัตร มีความห่วงใยลูกสาวคนนี้มาก ถือว่าเป็น “กล่องดวงใจ” กันเลยทีเดียว เมื่อรูปการณ์แบบนี้แล้ว แม้ว่ามีหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่ต้องเคลียร์กัน แต่เมื่อมีศึกซักฟอกที่มองเห็นถึงหายนะรออยู่ มันก็กลายเป็น “ตัวเร่ง” ให้ต้องรีบปิดห้องตกลงกันเร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปลำดับเหตุการณ์ หลายเรื่องที่ทั้งสองฝ่าย “ขบเหลี่ยม” กันแบบไม่ลงตัว ทั้งเรื่องที่ดินเขากระโดง สนามกอล์ฟที่เขาใหญ่ ของทั้งพวก “ชิดชอบ” และ ธุรกิจครอบครัวของนายอนุทิน ขณะที่อีกฝ่ายก็มีเรื่อสนามกอล์ฟอัลไพน์ ของครอบครัวชินวัตร ล่าสุดก็เป็นเรื่องการชงเรื่องสอบสวน “ส.ว.สีน้ำเงิน” มาจนถึงเรื่องใหญ่สำหรับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ก็คือ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” และ “พนันออนไลน์” ที่กำลังผลักดันแบบสุดแรงเกิด ในเวลานี้
แต่ล่าสุดเมื่อฟังจากท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้ว ก็เหมือนกับว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว มีความเข้าใจกันแล้วอะไรประมาณนั้น แต่หากพิจารณากันตามรูปการณ์ เท่าที่เห็นรับรองว่ามันเป็นเรื่อง “ซีเรียส” แน่นอน ต้องมีการต่อรองกันอย่างเข้มข้นแน่นอน บางเรื่องก็ต้องถอยกันมาคนละก้าว บางเรื่องก็ต้องขอแรงสนับสนุน จนสามารถหาจุดที่ลงตัวกันได้
และที่สำคัญกรณีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องได้รับประกันว่า “ต้องปลอดภัย” ไม่มีแทงข้างหลัง หรือตุกติกเด็ดขาด ดังนั้น จึงได้เห็นคำยืนยันจากปากของ นายอนุทิน ว่า ส.ส.ทั้งพรรคภูมิใจ ไทยห้ามขาด ห้ามลา ระหว่างการซักฟอก บรรดารัฐมนตรี ก็ต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือนายกฯในสภา
ดังนั้นถือว่าหลังจากการปิดห้อง “ดีลลับ” ทุกอย่างก็คลี่คลาย “ผลประโยชน์ลงตัว” และการันตีความปลอดภัย ให้นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ในสภา แต่ขณะเดียวกันนอกเหนือจากนี้บางสเต็ป นายกฯ ก็ต้องแสดงความสามารถเองบ้าง แต่สำหรับเรื่องใหญ่ ถือว่าเคลียร์กันแล้ว อะไรประมาณนั้น !!